นายกฯ แจงการจัดทำงบฯ 64 ยึด 6 ยุทธศาสตร์ในการจัดทำงบประมาณ

รัฐสภา 1 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ยืนยันการจัดทำงบประมาณ 2564 เป็นไปตาม 6 ยุทธศาสตร์ในการจัดทำงบประมาณ และบางส่วนเพื่อฟื้นฟูคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเริ่มขึ้นแล้ว มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยการจัดทำงบประมาณในปี 2564 รัฐบาลดำเนินการตามภารกิจการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งเรื่องของการดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุลภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง และความจำเป็นของการใช้จ่ายภาครัฐ รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการในทุกมิติ ทั้งเชิงยุทธศาสตร์และเชิงพื้นที่ โดยต้องมีความคุ้มค่าและไม่ซ้ำซ้อน พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและความต้องการของประชาชนในทุกระดับ


ขณะเดียวกันรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพทางการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อภารกิจจัดบริการสาธารณะระดับท้องถิ่นให้กับประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงฟื้นฟู บรรเทา และแก้ปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยโครงสร้างในการจัดทำงบประมาณปี 2564 แบ่งเป็นงบประมาณที่ใช้เป็นเงินรายจ่ายประจำ งบรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง งบรายจ่ายลงทุน และงบรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้

ทั้งนี้ รัฐบาลจัดทำงบประมาณภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

ขณะที่มีการจัดสรรเวลาในการอภิปราย 46 ชั่วโมง ให้สัดส่วนฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมงครึ่ง ฝ่ายรัฐบาล 22 ชั่วโมง คาดการณ์ว่าจะสามารถลงมติในวาระแรกได้ก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 3 ก.ค. ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา 72 คน ใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 70 วัน ซึ่งตามกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน

ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ได้ปรับคนอภิปรายลงเหลือ 90 คน หลังนายกรัฐมนตรีชี้แจงแล้ว ผู้นำฝ่ายค้านจะอภิปรายต่อ  ก่อนที่จะสลับให้สมาชิกและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอภิปราย เริ่มจากภาพรวมของงบประมาณ ต่อด้วยการจัดนโยบายที่ไม่สนองความต้องการอย่างแท้จริง ส่วนฝ่ายค้านจะรับหลักการหรือไม่ ต้องรอดูคำชี้แจงของรัฐบาลเป็นตัวกำหนดแนวทางการลงมติ นอกจากนี้ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้ชี้แจงช้าลง ไม่อยากให้อ่าน และขอให้รัฐมนตรีจดคำถาม พร้อมตอบชี้แจงทุกประเด็น ย้ำว่าการจัดงบประมาณปี 2564 ส่อทุจริตในหลายด้าน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]