“ทวี” เปิดสัมมนาสินค้าชาวไทย มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้

13 ก.ค.- รมว.ยุติธรรม เปิดงานสัมมนาสินค้าชาวไทย มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน พร้อมชูเอกลักษณ์สินค้าไทย ผสมผสานนวัตกรรม ดันเศรษฐกิจฐานรากสู่ตลาดสากล


วันนี้ (13 กรกฎาคม 2567) เวลา 14.50 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ “สินค้าชาวไทย มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการยกระดับศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้าชุมชน โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจ โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ ผลิตภัณฑ์ผ่านการสร้างแบรนด์ และคุ้มครองนวัตกรรมนั้น ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การจดเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการสินค้าในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ นโยบายของรัฐบาล ที่ได้ใช้แนวคิด Soft Power ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านหลายกลยุทธ์หลัก คือการส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศิลปะ การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านการจัดกิจกรรม ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจประเทศและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก อีกด้วย โดยมี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภาวิน ชินะโชติ ประธานกรรมการสาขาวิชาวิทยาการ จัดการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นายกรัฐมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมต้อนรับ ณ ห้องประชุมน้ำพราว บอลลูม โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี จังหวัดปัตตานี

ในการนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเรื่องที่สำคัญและท้าทาย เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ ได้ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมหลายประการ การสร้างสินค้าชาวใต้เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างโอกาส สร้างทุนทางพื้นที่ ผ่านการส่งเสริมอัตลักษณ์ วัฒนธรรมเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและการอนุรักษ์วัฒนธรรมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และความสมานฉันท์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ เพื่อยกระดับและพัฒนาความสามารถด้านความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้เพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อนำมาต่อยอดในการสร้าง พัฒนาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และสื่อถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันในตลาดทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ได้


ด้าน พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การจัดสัมมนาโครงการ “สินค้าชาวใต้ มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพาณิชย์จังหวัดในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพในอันที่จะพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์และความสมบูรณ์ของทรัพยากรและวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ภายในงานมีผู้เข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการและร่วมออกบูทกิจกรรม และจัดนิทรรศการ กว่า 220 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด และผู้ที่สนใจ เข้าร่วม . 712.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล