“สนธิรัตน์” ยอมรับไฟฟ้าล้น เร่งแก้ด้วยตลาดอาเซียน





กรุงเทพฯ
28 พ.ค.-“สนธิรัตน์” ยอมรับไฟฟ้าไทยล้นความต้องการ เร่งหาทางแก้ปัญหาด้วยการส่งออก
สร้างเครือข่ายอาเซียน ส่วนเอสพีพี หากต้องเลื่อนก็ต้องเจรจาให้เหมาะสม
ด้านการนำเข้าแอลเอ็นจีชี้ไม่ใช่ตลาดเสรีต้องขออนุญาตนำเข้าจากรัฐเพื่อคุมความมั่นคงด้านพลังงาน

นายสนธิรัตน์
สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การนำเข้า ก๊าซธรรมชาติเหลว
(แอลเอ็นจี )หลังจากที่ส่งเสริม
ให้มีการแข่งขัน และออกใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ
(
LNG Shipper)รายใหม่ เพิ่มขึ้น รวมถึง 5
รายแล้วว่า ตลาดก๊าซฯจะยังไม่ใช่ตลาดเสรี  การอนุญาตนำเข้านั้นจะไม่ใช่ปริมาณตามที่เอกชนเสนอนำเข้าขั้นสูงสุด
  โดยปริมาณนำเข้า จะต้องดูถึงความมั่นคง คุณภาพก๊าซฯ
และที่สำคัญต้องดูถึงต้นทุนค่าไฟฟ้าให้ต่ำที่สุดเป็นหลัก  จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
(กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งในขณะนี้กระทรวงพลังงาน
ร่วมกับ บมจ.ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังดูปัญหาอุปสรรค
หลัง กฟผ.ได้นำเข้ามาแอลเอ็นจี 2 ลำเรือเข้ามาทดสอบระบบ
การให้บริการแก่บุคคลที่สาม (
Third Party Access ) ซึ่งรับทราบเบื้องต้น
 ปัญหาด้านคุณภาพก๊าซฯที่ใช้ร่วมกันในระบบท่อ
ก็ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะอนุญาตนำเข้าในรอบต่อไป

ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอขอให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี
จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมกันแบกรับภาระค่าไฟฟ้าจากการที่รัฐกำหนดผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการว่า 
ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าปัจจุบันเกินความต้องการเพราะการเติบโตของภาคเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน


 นอกจากนี้แล้วตามแนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี)และเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังมาเร็วขึ้นก็จะมีส่วนสำคัญต่อการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญโดยเมื่อถึงเวลานั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วหรือ
Disruptive Technology จะทำให้การใช้ไฟโตก้าวกระโดดและหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวถึงเวลานั้นไฟฟ้าที่มากขณะนี้อาจไม่เพียงพอก็เป็นไปได้

   
ระยะสั้นหากมีการพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ
เอสพีพี ออกไปเพื่อบริหารไฟฟ้าให้สมดุลกับความต้องการก็ทำได้ โดยสามารถเลื่อนเข้า
เลื่อนออกให้เหมาะสมได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดู”นายสนธิรัตน์กล่าว

 ส่วนมาตรการค่าไฟฟรีไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนและสวนลดค่าไฟฟ้า
3 เดือน(มี.ค.-พ.ค.63) เมื่อเทียบกับเดือนฐานกุมภาพันธ์  เพื่อลดผลกระทบโควิด-19 ซึ่งจะสิ้นสุดเดือนพ.ค.นั้น
 ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะต่ออายุมาตรการดังกล่าวแต่อย่างใดเนื่องจากเห็นว่ามาตรการคลายล็อกดาวน์ได้ผ่อนคลายมากขึ้นดังนั้นผลกระทบจะไม่มากเช่นที่ผ่านมาที่คนส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน(
Work From Home) เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน
ยังมีมาตรการลดค่าไฟไฟฟ้าร้อยละ 3
ที่ยังคงช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนได้อีกส่วนหนึ่ง-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ