กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- สภาวะพักการชำระหนี้อัตโนมัติ หรือ Automatic Stay จะเกิดขึ้นเมื่อศาลสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย เป็นมาตรการคุ้มครองลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสฟื้นฟูกิจการ แต่ระหว่างการจัดเตรียมแผนฯ เพื่อยื่นต่อศาล ที่ยังไม่เกิด Automatic Stay หากการบินไทยเกิดไปชำระหนี้กับเจ้าหนี้บางราย อาจมีการร้องขอให้ยกเลิกสัญญาชำระหนี้ในภายหลังได้เช่นกัน เพราะถือว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ
การบินไทยเริ่มเดินหน้าทำข้อมูลแผนฟื้นฟูกิจการ และรายชื่อผู้จัดทำแผนฯ ที่จะเร่งเสนอนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ซึ่งตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลาย เมื่อศาลสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว จะเกิดการการพักบังคับชำระหนี้โดยอัตโนมัติ หรือ Automatic Stay
อาจารย์วิชา มหาคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย ให้ข้อมูลว่า สภาวะการพักบังคับชำระหนี้โดยอัตโนมัติ หรือ Automatic Stay เป็นมาตรการคุ้มครองลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสดำเนินกิจการและฟื้นฟูกิจการ ระหว่างนี้เจ้าหนี้ไม่สามารถฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ได้ หรือแม่แต่ชนะคดีแล้ว จะบังคับฟ้องร้องให้เป็นไปตามคำพิพากษาก็ไม่ได้ ยกเว้นจะเป็นกรณีการฟ้องร้องที่ไม่เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการ ยังสามารถทำได้ ขณะที่ลูกหนี้ก็ไม่สามารถไปทำสัญญาก่อหนี้ใหม่ได้เช่นกัน แต่หากมีเหตุจำเป็นที่ต้องให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ ก็สามารถทำสัญญาก่อหนี้ใหม่ได้ ซึ่งต้องยื่นร้องต่อศาลเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่การบินไทยมีสัญญาครบกำหนดชำระหนี้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จะต้องชำระหนี้ไปก่อนหรือไม่ อาจารย์วิชา มองว่าอาจต้องชะลอไปก่อน โดยเฉพาะช่วง 3 เดือน ก่อนศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ หากมีการชำระหนี้อาจเข้าข่ายฉ้อฉล ซึ่งเมื่อมีผู้จัดทำแผนแล้ว สามารถยื่นร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อให้เพิกถอนสัญญาการชำระหนี้ได้ เนื่องจากก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคกับเจ้าหนี้รายอื่น
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตตามมติ ครม.ให้การบินไทยยื่นฟื้นฟูกิจการทั้งในศาลไทยและศาลล้มละลายสหรัฐ ซึ่งกฎหมายไทยเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ สามารถยื่นขอฟื้นฟู และมีคนกลางเป็นผู้จัดทำแผนฯ แต่ในระบบศาลสหรัฐให้อำนาจลูกหนี้เท่านั้นที่จะดำเนิการทั้งหมด
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามต่อเนื่องว่าแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยจะออกมาในรูปแบบใด และครอบคลุมเงื่อนไขทางกฎหมายได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย