ทปอ.ชี้ผลทีแคสรอบ 3 ม.ธรรมศาสตร์ ไม่มีสิทธิไปตัดสิทธิ์เด็กห้ามเรียน หลังประกาศเพิ่มโควตาเข้าเรียน จนเกินที่นั่ง

กทม.17พ.ค.-ทปอ.ระบุ ทีแคสรอบ3 คณะวารสารฯ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อประกาศรายชื่อรับเด็กเกินจำนวนที่นั่ง  ไม่มีสิทธิไปลบชื่อออกจากระบบตัดสิทธิ์ห้ามเรียนต้องหาทางเยียวยา เนื่องจากไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของเด็ก 



ดร.พีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวถึงกรณีปัญหาการคำนวณคะแนนผิดพลาดในวันประกาศผลการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ทีแคสรอบ 3 


ของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน  ม.ธรรมศาสตร์  ว่า เกิดจากการประมวลผลการจัดเรียงคะแนนของมหาวิทยาลัย ที่ส่งคะแนนมายัง ทปอ. โดยประกาศรับจำนวนนักศึกษาที่มีสิทธิเข้าเรียนเพิ่ม หรือเพิ่มโควตาในการเข้าเรียน   โดยทปอ.ให้นโยบายว่า เมื่อมีการประกาศรายชื่อไปแล้ว ไม่สามารถที่จะยกเลิกรายชื่อได้ แม้ว่าจะมีการประมวลผลในการประกาศรายชื่อผิดพลาด จะไม่มีสิทธิไปตัดสิทธิเด็กได้ในขณะที่เด็กที่มีคะแนนสูงควรที่จะได้เข้าเรียนแต่ประมวลผลผิดจึงไม่ได้เข้าเรียนที่ธรรมศาสตร์ จะต้องเยียวยาเช่นกัน  

อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากทางมหาวิทยาลัย โดยที่เด็กไม่ได้ทำผิด มหาวิทยาลัยจะต้องเยียวยา เด็กต้องไม่เสียผลประโยชน์  ทางมหาวิทยาลัยจะไม่มีสิทธิ์ไปตัดรายชื่อเด็กออกจากระบบเด็ดขาด  


ดร.พีระพงศ์  กล่าวว่า ทีแคสรอบ3 คณะวารสารศาสตร์ ในการใช้คะแนนPAT7  ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ  รับทั้งหมด จำนวน 70 คน มีผู้สมัคร 1,135 คน โดยทปอ.ได้ส่งรายชื่อให้ทางมหาวิยาลัยจัดเรียงคะแนนตามเกณฑ์ และทางมหาวิทยาลัยส่งกลับมายังทปอ.1,133คน อีก2 คนไม่ตรงตามเกณฑ์  และระบบการประมวลผลของทปอ.ส่งกลับไปให้มหาวิทยาลัย ไปจำนวน 70 คน เมื่อวันที่8และ9พฤษภาคมที่ผ่านมา  ตามจำนวนที่เรียกรับ โดยมีจำนวนนักศึกษาที่มายืนยันในระบบ 68 คน  และมีจำนวน 1 คน ไม่เข้าสัมภาษณ์ จึงเหลือ จำนวน 67 คนที่มีสิทธิ์เรียน หลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยส่งหนังสือ มายังทปอ. ว่าจะขอเยียวยา เด็กจำนวน 197 คน ที่ไม่ผ่านการประกาศผลของทางทปอ.  ทางมหาวิทยาลัยจึงจะขอประกาศรับเพิ่ม   ทำให้ขณะนี้ยอดประกาศผลผู้มีสิทธิ์เรียนคณะวารสารศาสตร์ จำนวน 264 คน  ซึ่งเกินยอดที่ตั้งไว้  ซึ่งทางมหาวิทยาลัยตั้งยอดรับสมัคร  ทีแคสทั้ง4 รอบ ไว้ที่ 250 คน  ซึ่งขณะนี้ตัวเลขที่เกินจำนวนที่นั่งแล้ว และยังเหลือรับสมัครอีกรอบคือทีแคส รอบ4  การรับแบบ Admission เป็นการใช้เกณฑ์การคัดเลือกแบบ Admission ปีที่ผ่านๆมา โดยใช้ทั้งคะแนน GPAX, O-NET, GAT/PAT หรือคะแนนอื่นๆที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด  ทางมหาวทิยาลัยตั้งไว้คือ 120 คน   ซึ่งทางมหาวิทยาลัยต้องหาวิธีในการบริหารจัดการภายในเพื่อไม่ให้กระทบกับเด็ก 

ทั้งนี้ทปอ.ให้อิสระในการเยียวยา และไม่สามารถไปบังคับมหาวิทยาลัยได้ เพียงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประกาศผลในการรับสมัคร หากเด็กมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมต้องไปฟ้องศาลให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสิน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง