ระยอง 15 พ.ค.- “พล.อ.ประวิตร” เชื่อมั่นประสิทธิภาพโครงการระบบสูบผันน้ำคลองสะพาน-อ่างเก็บน้ำประแสร์ สามารถดึงน้ำเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุดหลายพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โครงการระบบสูบผันน้ำคลองสะพาน- อ่างเก็บน้ำประแสร์ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง หลังจากช่วงเช้า (15 พ.ค.) ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำภาคตะวันออก สำหรับโครงการระบบสูบน้ำผันคลอง-อ่างเก็บน้ำประแสร์ ทางกรมชลประทานใช้งบประมาณก่อสร้าง 400 ล้านบาท ตามแผนเดิมจะดำเนินการในปี 2564 แต่ได้ดำเนินการให้เร็วขึ้นในปี 2563 เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ไว้ใช้ปีถัดไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากนี้จะไม่ปล่อยให้น้ำไหลลงทะเลโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งโครงการนี้จะสามารถดึงน้ำกลับเข้าอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด
ด้านนายทองเปลว ทองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกน้อยกว่าค่าปกติในช่วงฤดูฝนปี 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอยู่ในเกณฑ์น้อย โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดสรรน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 23 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบในพื้นที่ EEC กรมชลประทานได้เพิ่มน้ำปริมาณต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำประแสร์ ด้วยการปันน้ำจากลุ่มน้ำวังโตนด จ.จันทบุรี มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปริมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมปรับปรุงคลองส่งน้ำ ปรับแผนลดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ที่ส่งไปจังหวัดชลบุรี โดยใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ผันมายังอ่างเก็บน้ำบางพระเพื่อส่งให้ผลิตน้ำประปาในจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทอีสวอเตอร์ ทำการก่อสร้างระบบสูบน้ำกลับชั่วคราวจากคลองสะพานไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปริมาณวันละ 50,000 – 170,000 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้อย่างเพียงพอไปจนถึงเดือนมิถุนายนนี้.-สำนักข่าวไทย