“ประเสริฐ” ไม่กังวล ป.ป.ช. รับไต่สวนแผนใช้งบบริหารจัดการน้ำ

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- “ประเสริฐ” แจงทันทีหลัง ป.ป.ช. รับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณน้ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ไม่กังวล พร้อมตรวจสอบ เพราะมีขั้นตอนตรวจสอบโครงการครบ ไม่มี สส.เพื่อไทยเอี่ยว เรื่องนี้ไม่ใช่การเมือง ดิสเครดิตในช่วงปรับ ครม. สกัดนั่ง มท.1


จากกรณีที่ ป.ป.ช. รับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในปี 2568 โดยปีดังกล่าว มีการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 28,990 โครงการ ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นผู้อนุมัติ เสนอที่ประชุม ครม. รวมงบประมาณ 51,000 ล้านบาท

ในเรื่องนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างมีกระบวนการและข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งโครงการนี้ เริ่มจากหน่วยงานต่างๆ ได้คีย์เข้าระบบไทย วอร์เตอร์ แพลน ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมาไทยกรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำ เมื่อมีโครงการรวมกันแล้ว ก็จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการเป็น 100 คน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและมาจากภาคประชาชน และข้าราชการในการพิจารณา หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่คณะกรรมการลุ่มน้ำ เมื่อผ่านการกรองแล้วก็เข้าสู่ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. และในฐานะที่ตนเองเป็นประธานก็จะมีการลงนามเพื่อเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งตอนนั้นงบประมาณอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท และถูกตัดเหลือประมาณ 7,000 ล้านบาท จากนั้นสำนักงบประมาณก็นำไปกลั่นกรองอีก ว่าโครงการไหนจำเป็นเร่งด่วน ก็ถูกพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยสำนักงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มี สส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างไร


ทั้งนี้ตนเองไม่ทราบผู้ร้องด้วย และยังไม่มีหนังสือมาถึงตนเองเพื่อที่จะสอบในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็ทราบจากการรายงานข่าว

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช. รับไต่สวนกรณีนี้ในช่วงที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยคาดว่านายประเสริฐจะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่อยากให้มองเช่นนี้ ยืนยันว่าการพิจารณาแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นการแก้ปัญหาให้กับประชาชน จึงอยากดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพราะขณะนี้อยู่ใกล้สิ้นปีงบประมาณแล้ว หากไม่ดำเนินการประชาชนก็จะไม่ได้รับประโยชน์ และย้ำว่ายินดีให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และไม่ทราบรายละเอียดในการร้องเรียน จึงไม่ทราบว่าเป็นการดิสเครดิต หรือทำให้เกิดผลทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ และไม่อยากให้มองว่าเป็นการดิสเครดิตสกัดไม่ให้นั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ

ทั้งนี้กระบวนการตรวจสอบโครงการมีการแปรญัตติว่าให้เท่านั้นลงในพื้นที่ สส.พรรคเพื่อไทยเท่านั้น นายประเสริฐชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่มีแปรญัตติ หรือให้งบฯ กับ สส. ทั้งสิ้น เนื่องจากผ่านคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งไม่มีองค์ประกอบที่เป็น สส. โครงการทั้งหมดถูกเสนอโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ


ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง เชียงลงแต่พื้นที่สส. พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐย้ำว่า เรื่องนี้ไม่จริง ซึ่งหากการงบประมาณดูแล้วได้มีการจัดสรรลงหลายพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะ สส.ในพรรคเพื่อไทย เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ต้องยอมรับว่าถูกปรากฏในภาคอีสาน เป็นหลักและภาคเหนือบางส่วน ซึ่งความจริงแล้วมีการกระจายตัวของโครงการ ไม่ใช่ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด หากดูข้อมูลแล้วจะเห็นได้ชัด ทั้งนี้หาก ป.ป.ช.เรียกมาก็พร้อมชี้แจง และยินดีให้ตรวจสอบเพราะเรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นแต่อย่างใด และไม่ทำให้หนักใจใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันไม่มีการฮั๊วกันระหว่างตนกับ สส.เพราะเรื่องนี้ สส.ไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องกรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพวกเป็นร้อยคน จัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง นั้น นายประเสริฐ บอกว่า ยังไม่เห็น ยังไม่ทราบเรื่อง น่าจะเป็นทางกระทรวงการคลังหรือไม่ ต้องไปสอบถามดู

ส่วนเรื่องนี้จะมีผลให้ ครม. สส. และ สว. หลุดจากตำแหน่งได้ในลักษณะเหมาเจ่ง หรือล้างกระดาน นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ง่าย ถ้าดูตามเหตุผล คิดว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ที่จะทำให้ถึงขั้นที่ สส.ต้องติดบ่วงในเรื่องนี้ และเรื่องนี้ตนฟังจากรายงานข่าว ก็ต้องรอดูความชัดเจนจาก ป.ป.ช. อีกครั้ง

ส่วน 2 คดีนี้ไม่ทำให้ ครม. มีความเสี่ยง มีความผิดใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ครม. ก็อนุมัติไปตามขั้นตอนหรือวิธีการกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนในรายละเอียดมันมีที่ไปที่มาที่ถูกต้อง เหมือนเรื่องน้ำที่ตนดูแลอยู่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย