ส.ส.พปชร.ผนึกกำลังช่วยประชาชนสู้ภัยโควิด-19

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.-ส.ส.พปชร. เหนือ อีสาน กลาง ใต้ ลงพื้นที่มอบของช่วยประชาชน สู้ภัยโควิด-19 


ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง หรือ ผู้กองเบิร์ด ส.ส.ชลบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผุดโครงการแจกนมผงสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยได้สละเงินเดือนบางส่วนและเป็นสื่อกลางจากเพื่อน ๆ ในการนำนมผงไปแจกจ่าย เพราะต้องการบรรเทาความเดือดร้อน และเห็นว่านมผงถือเป็นสิ่งสำคัญกับเด็กในช่วงวัยเจริญเติบโต

ร.อ.จองชัย กล่าวว่า โดยมีขั้นตอนการขอรับนมผง คือ ให้ถ่ายรูปของลูก พร้อมเขียนที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์โพสต์ไว้ในใต้คอมเม้นเฟซบุ๊ก  ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ผู้กองเบิร์ด www.facebook.com/jongchai ซึ่ง ร.อ.จองชัย จะเดินทางไปมอบให้ด้วยตัวเองถึงที่บ้าน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงการป้องกันการรวมตัวของคนหมู่มาก และการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะมอบให้ครอบครัวละ 1 กล่อง และขอให้เป็นครอบครัวที่ยากลำบากก่อน ทั้งนี้ในช่วงแรก ขอมอบให้กับประชาชนในพื้นที่เขต 2 เป็นลำดับแรก


“การที่ได้เข้ามาเป็น ส.ส.นั้น ล้วนมาจากเสียงของประชาชน ดังนั้นจึงอยากทำหน้าที่เพื่อตอบแทนประชาชน โดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ใด ๆ ผมขอทำการเมืองด้วยการเมือง ไม่ใช่ทำการเมืองเพราะเล่นการเมือง ขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวผม หากมีสิ่งใดให้แนะนำยินดีรับฟัง และเราจะฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน” ร.อ.จองชัย กล่าว

ขณะที่ 5 ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก่ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ , นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ , นายเอี่ยม ทองใจสด , น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธิ์ และ นายจักรัตน์ พั้วช่วย สละเงินเดือน ส.ส. 1 เดือน รวม 5 แสนบาท ร่วมบริจาค 4 แสนบาทให้โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งจะจัดสร้าง ห้อง OPD รักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ และอีก 1 แสนมอบให้ด่านตรวจคัดกรองโควิด-19

ด้าน นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่นำหน้ากากอนามัยและน้ำดื่มแจกจ่ายให้ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ในพื้นที่ชุมชนตลาดพัฒนา ต.หันคา อ.หันคา ซึ่ง จ.ชัยนาท ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เนื่องจากได้ดำเนินการป้องกัน ตั้งแแต่มีการแพร่ระบาดของโรคในช่วงแรก ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน


ขณะที่ นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 แม้ตนเองประสบเหตุไฟไหม้บ้าน แต่ยังเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน มอบสิ่งของทั้งบ้านที่ไฟไหม้ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยมอบเจลล้างมือ หน้ากากอนามัย และอาหารยังชีพ

ส่วนที่ภาคอีสาน นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.เขต 1 จ.นครราชสีมา นำทีมงานออกพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19  ในพื้นที่เสี่ยงรอบตัวเมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย  โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันอย่างจริงจัง โรคร้ายก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเราได้

ขณะที่ภาคใต้ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เปิดสำนักงาน ส.ส.ที่เทศบาลตำบลรัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งมีถุงยังชีพ เช่น ข้าวสาร และสิ่งของจำเป็นที่หายาก เช่น นมให้เด็ก ข้าวสาร แพมเพริ์สให้ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงมาขอรับสิ่งของอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าจะเป็นคนจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ ทำให้ประชาชนรู้สึกประทับใจ ที่ไม่มีการแบ่งแยก

นายสุทา กล่าวว่า สิ่งของบริจาคต่าง ๆ มีผู้ประกอบการประสานมาเพื่อต้องการช่วยเหลือสังคม โดยนำถุงยังชีพมามอบให้ โดยเฉพาะสิ่งของจำเป็นหายาก เช่น นมเด็ก ที่ภาครัฐ ไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุน ในหลายกรณี จึงช่วยกันแบ่งเบาสิ่งของเหล่านี้ มอบเป็นกำลังใจให้ชาวภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ยังคงใช้วิธีนำสิ่งของไปมอบให้ประชาชนในชุมชน โดยในการแจกจ่าย ต้องคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social Distancing

ขณะที่ประชาชนรายหนึ่งที่มารับมอบอาหาร  ได้ขอบคุณ นายสุทา ที่ช่วยเหลือประชาชนทุกเขต ไม่เลือกเขต และเป็นคนต่างจังหวัดด้วย สำหรับประชาชนในชุมชนหลังวัดเมืองใหม่ ต่างดีใจที่มีการมามอบถุงยังชีพ โดยเฉพาะข้าวสาร เพราะจากการปิดเมืองของภูเก็ต ทำให้ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ชาวชุมชนต้องไปขุดหัวมัน หัวบอน เก็บผักในป่ามากิน ขอขอบคุณ นายสุทา มอบถุงยังชีพให้ชาวชุมชนเมืองใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย