ภูมิภาค 3 พ.ค.- ร้านตัดผมอุทัยธานี-มหาสารคาม เปิดบริการแล้ววันแรก หลังมีการผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 แต่ยังต้องปฏิบัติตามกระทรวงสาธารณสุขการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ป้องกันการระบาดซ้ำ ขณะที่ร้านอาหารบางแห่งประเภทแจ่วฮ้อนขอปิดต่อ ระบุเปิดไม่คุ้ม 1 คน 1 หม้อ แต่ซื้อกลับไปทานที่บ้านได้
หลังจากหลายจังหวัดคุมเข้มพื้นที่มานับเดือนจากสถานการณ์โควิด-19 และวันนี้ (3 พ.ค.) เป็นวันแรกที่ผ่อนคลายมาตรการให้ผู้ประกอบการร้านค้าบางประเภทเปิดบริการได้ อาทิ ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาด
ที่ จ.อุทัยธานี ร้านตัดผมหลายแห่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.ทุ่งพง อ.หนองฉาง เปิดบริการแล้วจากที่ติดตามข่าวสารและได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยมีการจัดพื้นที่ตามข้อปฏิบัติในการป้องกันควบคุมโรค อย่างที่ร้าน “คุ้มกะลาหัว บาร์เบอร์” มีลูกค้ามาใช้บริการแต่เช้า ขณะที่นายเตชินท์ เเพบัว อายุ 22 ปี เจ้าของร้าน สวมชุดป้องกันเชื้อ หน้ากากอนามัย และ face shield
นายเตชินท์ กล่าวว่า ได้ทำความสะอาดทั้งร้านและอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเรียบร้อย โดบเปิดให้บริการแบบนัดคิววัน/เวลา ลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งนักเรียน วัยรุ่น และคนทำงาน ก่อนลูกค้าเข้าร้านทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกครั้ง ภายในร้านจัดที่นั่งเว้นระยะห่างให้รอได้ไม่เกิน 4 คน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นการป้องกันตัวเองและลูกค้าด้วย
เช่นเดียวกัน จ.มหาสารคาม ร้านตัดผม “แหม่ม แฮร์ดู” ต.ตลาด อ.เมือง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 นางพิมพ์ทิตตา พัฒนธีตานนท์ เจ้าของร้าน ระบุว่า ร้านปิดมานานกว่า 1 เดือน และวันนี้เปิดบริการเป็นวันแรก ซึ่งเตรียมพร้อมเรื่องความสะอาดเต็มที่ ลูกค้าที่มาใช้บริการจะต้องโทรมานัดล่วงหน้า และรับลูกค้าครั้งละ 1 คน ไม่ต้องนั่งรอในร้าน ช่างตัดผมจะสวมชุดป้องกัน สวมเฟซชิลล์ ส่วนลูกค้าก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการเช่นกัน ตอนนี้ต้องปรับเปลี่ยนเรียนรู้ให้อยู่ได้ แม้ช่วงแรกจะลำบากบ้าง แต่เชื่อว่าต่อไปก็จะดีขึ้น
ส่วนนายเรืองฤทธิ์ ลุนเดชา เจ้าของร้านอาหารแจ่วฮ้อน ท่าขอนยาง กล่าวว่า ถึงแม้ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมหาสารคามจะให้ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานในร้านได้แบบมีเงื่อนไข แต่ร้านของตนเลือกที่จะยังปิดต่อไป เพราะเป็นร้านอาหารสไตล์ครอบครัว หม้อไฟแจ่วฮ้อนจะเป็นชุดสำหรับครอบครัว หากกำหนดให้ลูกค้ามานั่งรับประทาน 1 คนต่อ 1 โต๊ะ คงไม่คุ้มต้นทุน แต่ลูกค้าสามารถซื้อกับไปรับประทานที่บ้านได้.-สำนักข่าวไทย