กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะดูเหมือนลดน้อยลง แต่ในความเป็นจริงผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการยังมีอยู่อีกมาก มีแนวคิดการเก็บตัวอย่างเสมหะมาตรวจ หรือใช้วิธี “ขาก” ที่พบว่ามีประสิทธิภาพดี เทียบเท่าการตรวจสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก ติดตามจากรายงาน
นี่คือการสาธิตวิธี “ขาก” หรือการนำเสมหะจากลำคอส่วนลึกออกมา เพื่อนำไปเป็นตัวอย่างตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีข้อสังเกตว่า ขณะ “ขาก” ยังคงใช้หน้ากากอนามัยสวมใส่อยู่ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสฟุ้งกระจาย จากนั้นบ้วนเสมหะใส่กระบอกเก็บเชื้อ ที่ก่อนหน้านี้ได้เตรียมใส่อาหารเลี้ยงเชื้อหรือที่เรียกว่า VTM เอาไว้ ทุกขั้นตอนของการเก็บเสมหะ ควรใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อเข้าไปในถุงเก็บ ที่ต้องผนึกซีลไล่อากาศออกถึง 3 ชั้น แล้วเก็บใส่กล่องรักษาอุณหภูมินำส่งแลปภายใน 5 ชั่วโมง
ข้อแนะนำคือ ก่อนการ “ขากเสมหะ” ต้องไม่รับประทานน้ำ หรืออาหาร หรือบ้วนปากราว 1 ชั่วโมง แพทย์ย้ำวิธีนี้แม่นยำเทียบเท่ากับการเก็บสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก เหมาะสมกับการตรวจเชิงรุก หรือ Active case finding ในชุมชนเฉพาะที่ คราวละมากๆ ข้อดียังมีอีกทั้งราคาถูก มีความรวดเร็ว และลดการติดเชื้อสู่แพทย์
แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็ไม่ใช่วิธีที่จะนำมาใช้ทดแทน การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก เจ้าหน้าที่จะประเมินว่า ใครต้องใช้วิธีแบบใด อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงยังคงต้องใช้วิธี Swab เหมือนเดิม
เบื้องต้นคาดว่าพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จะเป็นพื้นที่แรกแรกที่จะนำวิธีนี้ไปใช้ เพราะมีความแม่นยำ รวดเร็ว เหมาะสมในกลุ่มผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย