กรุงเทพฯ 21 เม.ย.-ประธานวิปฝ่ายค้าน เรียกร้อง “ชวน” เปิดประชุมสภาฯ เร็วขึ้น หวังได้ชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงิน ชี้แบงก์ชาติ จ้องซื้อตราสารหนี้ หวั่นซ้ำรอยในอดีต
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การใช้จ่ายงบประมาณส่วนท้องถิ่นที่รัฐบาลให้แต่ละจังหวัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ เป็นเรื่องที่ดี ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้รับทราบความเป็นห่วงมาจากเพื่อน ส.ส.ว่าเนื่องจากงบประมาณดังกล่าวต้องรีบใช้อย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน และให้เกิดประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ แต่การใช้อย่างเร่งด่วน โดยสามารถข้ามขั้นตอนของระเบียบการใช้เงินตามปกติ อาจเปิดช่องให้ผู้ต้องการแสวงประโยชน์ ฉกฉวยประโยชน์จากงบประมาณนี้ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลให้กำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรงกับความเดือดร้อนของประชาชน
นายสุทิน ยังขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล และ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาเร่งเปิดสมัยประชุมสภาฯ ให้เร็วขึ้น เพราะปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19กับผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้นพัวพันกันในหลายมิติ และที่สำคัญ พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด มีผลบังคับใช้แล้ว มีมูลค่ามหาศาลเกือบ 2 ล้านล้านบาท หากใช้เงินผิดพลาดหรือมีการทุจริตในการใช้งบประมาณ จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลแก่ประเทศชาติ จึงต้องรีบเปิดสภาฯ เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินต่าง ๆ ของรัฐบาล
“การที่รัฐบาลจะออก พ.ร.ก.ให้แบงค์ชาติไปซื้อตราสารหนี้ ซึ่งหากไม่คิดให้รอบคอบ อาจซ้ำรอย เหมือนที่แบงค์ชาติเคยใช้เงินอุ้มสถาบันการเงิน ผ่านกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินสมัยวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ซึ่งทำให้สูญเสียเม็ดเงินถึง 800,000 ล้านบาท ในระยะแรก และสูญเสียอีก 1.4 ล้านล้านบาทในเวลาต่อมา รวมความเสียหาย 2.2 ล้านล้านบาท รวมทั้งกรณีที่แบงค์ชาติ ใช้เงินปกป้องค่าเงินค่าเงินบาท จนขาดทุน 2 แสนกว่าล้านบาท จนนำไปสู่วิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งยังเป็นฝันร้ายที่หลอกหลอนคนไทยอยู่จนถึงวันนี้ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รีบเปิดสมัยประชุมสภาฯ ก่อนกำหนด เพื่อให้รัฐบาลและแบงค์ชาติได้รับฟังความคิดเห็นของสภาฯ ด้วย” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ใครที่กังวลว่าการประชุมสภาฯ จะนำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น สามารถป้องกันได้ด้วยมาตรการทางสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะห่าง หรือ การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการประชุม ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากการประชุม ครม.สามารถทำได้ การประชุมสภาฯ ก็ควรกระทำได้เช่นเดียวกัน ขอให้รัฐบาลและประธานสภาฯ เร่งพิจารณาเปิดสภาฯ ก่อนกำหนด เพราะขณะนี้เกิดข้อพิรุธในการใช้จ่ายเงินงบประมาณต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาโควิด และแผนการใช้เงินที่ออกมาก็มีเงื่อนงำมาก
“หากเปิดสภาช้า ก็จะสายเกินไป เข้าตำรา กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ เพราะที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ และกระจายความช่วยเหลือประชาชนไม่ทั่วถึง หากขาดการตรวจสอบ อาจนำไปสู่วิกฤติของประเทศเหมือนในอดีต ขณะนี้อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแล้ว เดี๋ยวจะดึงออกมาไม่ทัน จึงต้องรีบเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อให้ผู้แทนราษฏรตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ โดยด่วน อย่าฉวยโอกาสใช้วิกฤติโควิดเป็นข้ออ้าง เพื่อปิดปากฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลหรือไม่” นายสุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย