โฆษก ศบค.ชี้ยังต้องเฝ้าระวัง หาก โควิด-19 เพื่อนบ้านยังน่าห่วง

ทำเนียบฯ 16 เม.ย.- โฆษก ศบค. ย้ำแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะดีขึ้น แต่หากประเทศเพื่อนบ้านสถานการณ์ยังน่าห่วง ก็ยังไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้ เพราะนายกฯ ยึดสุขภาพเป็นสำคัญ เผยทีมงานสาธารณสุข ในฐานะเลขา ศบค.กำลังศึกษามาตรการผ่อนคลาย โดยหารือกับภาคเอกชนอย่างเข้มข้น ระบุการปลดล็อก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นอำนาจนายกฯ จะพิจารณา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า อุปรณ์ AI ที่ นายกรัฐมนตรีไปติดตามการทำงานที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นอุปกรณ์ที่จะเป็นตัวช่วยเจ้าหน้าที่ในการ ตรวจคนไข้ที่ตรวจเชื้อโควิด-19  จากรูปแบบเดิม คือการใช้ไม้พันเข้าไปดึงเชื้อจากจมูกด้านหลังสุดและดึงออกมาเพื่อที่จะเอาตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจเข้าเครื่อง PCR ซึ่งต้องใช้เวลา และมีความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในการตรวจ เพราะการตรวจอาจมีการไอจามของคนไข้ หากเป็นผู้ที่ติดเชื้อจะมีความเสี่ยงเจ้าหน้าที่ต้องใช้ชุดในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีมาจากจีนที่ใช้การรวบรวมสถิติของผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก มาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์จำ และเมื่อนำผู้ป่วยใหม่ใส่เข้าไป จะเกิดการคำนวนโดยฐานข้อมูลจะวิเคราะห์ให้ว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19  หรือไม่ หรือมีเชื้อกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นการสกรีนคนไข้ที่ไม่ต้องให้บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงและติดเชื้อ โดยใช้เพียงไฟล์ภาพ CT scan หรือภาพเอ็กซเรย์ ของคนไข้ก็สามารถประมวลผลได้ว่าเข้าข่ายติดเชื้อหรือไม่ 

ส่วนการผ่อนปรนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่นั้น โฆษก ศบค.กล่าวว่า โดยหลักการเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศูนย์. ศบค. ที่ได้ให้นโยบายไว้ หลัก คือยึด สุขภาพ เป็นสำคัญตามมาด้วย เศรษฐกิจและสังคม หากเป็นเช่นนั้นต้อง ให้สุขภาพมาก่อน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขของผู้ป่วย  หากเราปล่อยตัวเราเองไม่รักษาระยะห่าง การ์ดตก อาจจะกลับมาติดเชื้อเพิ่ม 


“หากต้องการให้เปิดห้าง ประชาชนจะมีการเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างใช้บริการได้หรือไม่ ทุกคนยอมรับกติกาได้หรือไม่ ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยในการทำทุกกิจกรรม เป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ ดังนั้นเห็นว่าการผ่อนคลาย ต่าง ๆ ต้องมีความรอบคอบ เพราะหากดูตัวอย่างจากประเทศที่มีการปล่อยปละละเลย จะเห็นได้ว่ามีผู้ติดเชื้อ ดีดกลับมา และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้นการที่จำกัดพื้นที่ การเคลื่อนไหว ก็ยังคงมีความเสี่ยง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทีมงานกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะ เลขาคณะ ศบค. กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่คือการผ่อนคลายและกลับมาสู่การใช้ชีวิตปกติ ทีมวิชาการชุดนี้กำลังทำงานอย่างเข้มข้น และดูแลอย่างเต็มที่ ดูในทุกมิติ ทั้งภาคเศรษฐกิจ นำเอกชนมานั่งพูดคุยกันว่าแต่ละมาตรการที่จะออกมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้ใกล้กรอบเวลาครบกำหนดการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คือวันที่ 30 เมษายน แต่หากถึงเวลาตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงแดงไปทั้งโลก เราก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง

“แม้ว่าเราจะทำตัวเลขได้สองหลักแต่ข้างบ้านประเทศรอบ ๆ มีตัวเลขสามหลัก บ้านเราปลอดภัย แต่ข้างบ้านไม่ปลอดภัย เราก็ไม่สามารถปล่อยได้ ต้องเข้าใจในสถานการณ์ การผ่อนปรนในภาพใหญ่ คนในภาพเล็กต้องมีส่วนร่วมด้วย  หากคนไทยร่วมกันมีวินัยทุกคน เดินหน้าไปอย่างพร้อมเพียง เชื้อโรคก็จะไม่มา เพราะเขากลัวการรักษาระยะห่าง หากท่านสามารถทำได้ ก็ตอบโจทย์การผ่อนคลายนี้ได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


เมื่อถามว่าจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เลย จะสามารถยกเลิกประกาศที่เข้มงวด ได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ วันที่ 26 มีนาคม- 30 เมษายน จะผ่อนคลายอัตโนมัติในวันที่ 1 พฤษภาคม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอย่างนั้น จะตีความว่าวันที่1 พฤษภาคม กลับมาเป็นปกติเลยคงไม่ใช่ เพราะนายกรัฐมนตรี บอกแล้วว่าจะต้องประเมินก่อน 1 สัปดาห์ ก่อนพ.ร.ก.ครบกำหนด ว่าจะต้องขยายหรือไม่ แต่สถานการณ์เห็นอยู่แล้วว่า ตัวเลขการติดเชื้อ เสียชีวิต ของเพื่อนบ้านยังคงสูงอยู่ หากแต่ละจังหวัดจะผ่อนปรนตัวเอง ก็ต้องเป็นเรื่องที่หารือกันเชื่อว่านายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นผู้พิจารณา เราต้องสู้กับโควิด-19 อีกพอสมควร เพราะตอนนี้ในแต่ละประเทศยังไม่มีใครกล้าที่จะยกเลิกมาตรการที่เข้มข้น ดังนั้นการตัดสินใจขึ้นอยู่กับพื้นฐานชุดข้อมูลขอให้รอการประเมินก่อน

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ภาวะนี้คือการร่วมมือร่วมใจกัน 100% หากทำได้ 90% ก็ดีใจ และหากทั้งประเทศทำได้เกิน 100 เปอร์เซนต์ ก็ยิ่งดี เพราะเราต้องการความร่วมมือจากทุกคน ไม่มีแบ่งศาสนา เชื้อชาติ การเมือง เพราะทุกคนล้วนเป็นคนไทยที่ศัตรูของเราคือโควิด-19 เราต้องใช้ใจของเราสัมผัสเชื่อมใจสู้กับเชื้อโรคตัวเล็ก ๆ ให้หายไปจากประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]