กักตัว Local Quarantine กทม. 75 รายแรก กลับบ้านแล้ว

กทม.16เม.ย.-กทม.ร่วมส่งผู้ถูกกักตัวในศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพฯ ครบ 14 วัน จำนวน 75 ราย กลับบ้าน หลังไม่พบเชื้อ


นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) ร่วมส่งตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทางด่านบก ที่ผ่านการกักตัวในศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร  ครบ 14 วัน จำนวน 75 ราย พร้อมมอบหนังสือรับรองการกักตัวครบ 14 วัน หน้ากากอนามัยแบบผ้า จำนวน 2 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 2 ขวด สเปรย์แอลกอฮอล์ จำนวน 2 ขวด และคู่มือการปฏิบัติตัวภายหลังกลับไปอยู่ที่บ้าน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้กักตัวทุกคน ที่ศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ย่านจตุจักร


นายสกลธี กล่าวร่า ศูนย์ควบคุม Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักอนามัย สำนักงานเขตจตุจักร และหน่วยงานอื่นๆ ที่บูรณาการร่วมกัน สำหรับผู้ถูกกักตัวกลุ่มแรกที่ครบกำหนดในวันนี้ มีจำนวน 75 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 38 ราย เพศหญิง 37 ราย ผลการตรวจสุขภาพร่างกายพบว่าทุกคนมีผลเป็นลบ negative ปลอดเชื้อ ไม่พบโรคโควิด-19 ซึ่งจะส่งตัวทุกคนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และได้เน้นย้ำให้ทุกคนระมัดระวังสุขภาพอย่างต่อเนื่องขณะที่กลับไปพักอาศัยอยู่ที่บ้าน


ส่วนผู้ถูกกักตัวในกลุ่มที่ 2 มีจำนวน 27ราย เป็นเพศชาย 15 รายเพศหญิง 12 ราย ซึ่งได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกคนเช่นกัน ซึ่งผลการตรวจพบว่าทุกคนไม่พบเชื้อ และจะครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ในวันที่ 18 เม.ย. 63 

ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมจัดหาสถานที่สำหรับกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม อาทิ ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกับผู้ที่เคยติดเชื้อ แล้วสถานที่มีความแออัดหรือไม่สามารถเว้นระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing) ได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น ซึ่งในอนาคตอาจมีการทยอยมากักตัวเพิ่มเติม ขอให้ประชาชนมั่นใจและไว้วางใจได้ว่ากทม.ได้จัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสม และเพียงพอต่อจำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงรวมถึงผู้ที่ติดเชื้อด้วย และขอขอบคุณผู้ถูกกักตัวทุกคนที่เข้าใจ และมีความเสียสละ 

หนึ่งในผู้เข้ารับการกักกันตัว 14 วัน เปิดใจว่า เดินทางกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วมาเข้ารับการกักกันตัวตามมาตรการที่รัฐบาลและ กทม.กำหนด ยืนยันว่าการกักกันตัวเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ตนเองและผู้อื่น สำหรับการใช้ชีวิตในระหว่างการกักตัวที่ศูนย์แห่งนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ไม่เกิดความเครียดใดๆ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติภายใต้ระเบียบของเจ้าหน้าที่ มีห้องพักแยกแต่ละบุคคล มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อน อาหารครบ 3 มื้อ อร่อยรับประทานได้ และมีการสอบถามอาการทางโทรศัพท์ทุกวัน ส่วนการแยกทิ้งขยะปนเปื้อนก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บที่หน้าห้องทุกวัน นอกจากนี้เมื่อครบกำหนดได้กลับบ้านยังมีความมั่นใจว่าปลอดภัยเพราะมีการออกหนังสือรับรองให้ด้วย ต้องขอขอบคุณรัฐบาลและกทม. ที่ดำเนินมาตรการนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ไข้กลับอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว

นายกฯ ไข้กลับ มีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน บอก ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ – โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม

นายกฯไปสกล

นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร

นายกฯ ลงพื้นที่ สกลนคร-นครพนม ก่อนประชุม ครม.สัญจร ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร แนะหน่วยงานลิสต์ปัญหาให้ชัดเจน หลังพื้นที่สะท้อนระบบนิเวศเสื่อมโทรม บึงตื้นเขิน ขณะ ม.เกษตร ของบฯ 50 ล้านบาท ตั้งศูนย์ Wellness Center ภาคอีสาน ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

ป่วนใต้

คนร้ายซุ่มโจมตี ยะลา-ปัตตานี อส.ดับ 2 เจ็บ 1

คนร้ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส. ต่อเนื่อง 2 จุด ในพื้นที่ยะลาและปัตตานี เจ้าหน้าที่ อส. เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย พร้อมวางเพลิงเผารถยนต์และยิงถล่มฐานปฏิบัติการอย่างอุกอาจ