ยธ.1 เม.ย.- รมว.ยุติธรรม ตั้งโต๊ะแถลงโชว์ผลงานยึดทรัพย์ 5 เครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ กว่า 70 ล้านบาท ชี้ ยังพบเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงาน ปปง. แถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สิน ในการตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด พร้อมโชว์ผลยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดกว่า 70 ล้านบาท ยอดเงินหมุนเวียนในเครือข่ายกว่า 5,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เครือข่ายที่มีการยึดทรัพย์ คือ 1.เครือข่ายนายอดิศักดิ์ พื้นที่ กทม.- นนทบุรี อายัด 2.09 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน
2.เครือข่าย นายสุทธิชัย จ.เชียงราย-ตาก พบการหมุนเวียน 425 บัญชี วงเงิน 3,300 ล้านบาท
3.นายอรรถพล จ.สงขลา พบเงินหมุนเวียน 285 บัญชี มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท
4.เครือข่ายนายสมเกียรติ ปัจจุบันถูกจับขังที่ท่าขี้เหล็ก อายัดได้ 45 ล้านบาท และ
5.เครือข่ายจางซื่อ คนจีน ที่จังหวัดเพชรบุรี จับแล้วยึดได้กว่า 130 ล้านบาท และจะอายัดเพิ่ม 14 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายค้ายาเสพติดมีแหล่งผลิตอยู่นอกประเทศไทย เป็นที่ทราบทั่วกัน ซึ่งในประเทศไทย ยังไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด โดยการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีการนำเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดส่งต่อกันเป็นทอดๆ โดยใช้บัญชีการเงินเป็นตัวกลางในการใช้จ่ายในเครือข่าย โดยส่วนใหญ่แล้ว การนำเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเรื่องของความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะต้องใช้ พ.ร.บ.มาตรการการฟอกเงิน 2542 เพื่อตัดและทำลายวงจรนี้ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ปฎิบัติตามคำสั่งที่ 6/2563 ในการเข้าจับกุมครั้งนี้ มี 3 เครือข่าย 27 เป้าหมายบุคคล 15 จุด ปฏิบัติการ คือ จังหวัดเชียงราย 12 จุด เชียงใหม่ 1 จุด ตาก 1 จุด และสระบุรี 1 จุด สามารถยึดทรัพย์สินได้จำนวน 23 ล้านบาท อายัดบัญชีที่ใช้ในการฟอกเงิน 715 บัญชี พบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีจำนวนกว่า 5,000 ล้านบาท
ด้านนายเทพสุ บวรโชติดารา ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ข้อมูลที่ ปปง. ตรวจพบในการรับโอนเงินผ่านช่องทางทาง EDM ATM E-Banking มากกว่า 100 รายการ ใน 1 เดือน มีการถอนเงินออกผ่านช่องทาง ATM ในพื้นที่จังหวัดชายแดนทางภาคเหนือพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ส่วนนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตามที่มีข้อเน้นย้ำของนายกรัฐมนตรี และดำริจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้แนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน 3 แนวทาง คือ การบูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติ เครื่องมือ หรือกฏหมาย และกลไกต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าการปฎิบัติการครั้งนี้มีการร่วมกันหลายมีงาน แต่ละหน่วยงานมีประเด็นและข้อจำกัด ฉะนั้นการนำกฎหมายของแต่ละหน่วยงานมาร่วมกันในการดำเนินการเพื่อปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงินเป็นสิ่งสำคัญ.-สำนักข่าวไทย