บช.สอท. 9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ หารือร่วมกับ ปปง. เตรียมลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้านบาท เอี่ยวขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ และเตรียมประสานขอออกหมายแดงให้เร็วที่สุด
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประชุมร่วมกับนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเปิดเส้นทางการเงินของ “ก๊กอาน” เจ้าของตึกกาสิโนในปอยเปต และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าวันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผอ.กองกฎหมาย ปปง. เนื่องจากพบว่าก๊กอาน มีความเชื่อมโยงกับคดีของนางสาวชาลอต นางแบบชื่อดัง และยังพบคดีอื่นๆ อีก 3 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกัน จึงเป็นหลักฐานให้นำมาสู่การออกหมายจับในประเทศไทย ในข้อหาเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน หากเสร็จสิ้นแล้วจะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแล้วจึงจะสามารถประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพลออกหมายแดง
ส่วนการประชุมร่วมกับ ปปง. ในวันนี้ ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของก๊กอานในอดีต ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในประเทศไทยหรือกัมพูชาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยเชื่อว่าก๊กอานได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นประเทศที่อยู่ในความร่วมมือของอินเตอร์โพลก็มีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ส่วนจะมีคนไทยหรือใครที่รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังก็ต้องขยายผลเพิ่มเติม
ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผอ.กองกฎหมาย ปปง. เปิดเผยว่า หลังมีการตั้งพนักงานสืบสวน จากการตรวจสอบทรัพย์สินและการทำทุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของก๊กอาน พบว่ามีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท และยังเชื่อว่ามีทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังต้องสืบทรัพย์อีกจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลและทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ปปง. ก็มีอำนาจในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินส่วนนี้มาขายทอดตลาดและคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย
ส่วนกรณีของนางสาวจุรี หรือเชอร์รี่ ลูกสาวของก๊กอาน และมีข้อมูลว่าสวมสิทธิบัตรประชาชนคนไทย จากข้อมูลของตำรวจยังขัดแย้งกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ซึ่งต้องประสานกรมการปกครอง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบค้นข้อมูลว่าคนไทยที่ถูกสวมสิทธิยังมีตัวตนอยู่หรือไม่ หรือเป็นการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ และในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ จะแถลงสรุปผลการตรวจค้น 20 จุด และรายละเอียดในคดี ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ.-416-สำนักข่าวไทย