สุวรรณภูมิ 4 เม.ย. – คนไทยที่กลับจากต่างประเทศเข้ารายงานตัวที่ศูนย์ EOC เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว 67 คน หลังพ้นกำหนดเส้นตาย 18.00 น.
ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EOC) หลังมีการขีดเส้นตายให้คนไทย จำนวน 152 คน มารายงานตัว ภายในเวลา 18.00 น. เนื่องจากไม่ยอมกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (3 เม.ย.) ล่าสุดมีผู้เดินทางมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว รวม 67 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษาทุนเล่าเรียนในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าการครบเส้นตาย เวลา 18.00 น. มีผู้ปกครองพาตัวบุตรหลาน ซึ่งเป็นนักศึกษาในต่างประเทศ มาส่งให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการฯ พร้อมพยายามอธิบายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เป็นเพราะการประสานงานของภาครัฐ ในการนำบุตรหลานของตนกลับประเทศ ไม่มีความชัดเจนและสับสนมาตลอด รวมทั้งแสดงความห่วงใยว่า การให้ผู้ถูกกักตัวอยู่อาศัยรวมกัน 3 คน ในห้องเดียวกัน จะทำให้เกิดการติดต่อกันหรือไม่
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ขอให้ผู้ที่ต้องกักตัวและผู้ปกครองสบายใจ เพราะการกักตัวเป็นการแยกตัวออกจากผู้ป่วย แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวตามเงื่อนไข เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และไม่เคลื่อนไหวตัวไปตามพื้นที่ โดยผู้ที่ตรวจพบว่ามีไข้ 3 คน ที่หลบมาตรการกักตัวออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคืนนี้ บางคนกลับมารายงานแล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่า มีบางคนที่มีอาการ แต่ยังไม่มารายงานตัว ดังนั้น จึงต้องเข้าสู่ระบบการตรวจ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง สมาชิกครอบครัว และสังคมส่วนรวม ส่วนสถานที่พัก ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ผู้ต้องกักตัวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีโรงแรม 3 แห่งด้วยกัน
ด้าน พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ผู้เจตนาหลบเลี่ยงข้อห้าม อันจะส่งผลเสียต่อสถานการณ์ ถือเป็นผู้ไม่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นเรื่องความไม่เข้าใจและความขลุกขลัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เชื่อว่าความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น และนำมาสู่ความปลอดภัยของสังคม. – สำนักข่าวไทย