ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครบรอบ 19 ปี

กรุงเทพ 26 ก.ย.- สนามบินสุวรรณภูมิ ครบรอบ 19 ปีที่ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบินหลักของประเทศไทย รองรับผู้โดยสารมาแล้วกว่า 878 ล้านคน 5.45 ล้านเที่ยวบิน และการขนส่งสินค้ากว่า 20 ล้านตัน สะท้อนบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การคมนาคม และการท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาสู่ World Class Hospitality Airport ที่ผสานเทคโนโลยีทันสมัย การยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล


นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายน 2568 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จะครบรอบ 19 ปี ของการดำเนินงานในฐานะสนามบินหลักของประเทศไทยและหนึ่งในศูนย์กลางการบินที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำหน้าที่ประตูสู่ประเทศไทยเชื่อมโยงผู้โดยสารจากทั่วโลก และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การคมนาคม และการท่องเที่ยวของประเทศ นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 ถึงปัจจุบัน ทสภ. รองรับผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 878.65 ล้านคน เที่ยวบิน 5.45 ล้านเที่ยวบิน และการขนส่งสินค้ากว่า 20.62 ล้านตัน สะท้อนบทบาทโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมของชาติ เฉพาะปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – สิงหาคม 2568) มีสายการบินประจำให้บริการ 126 สายการบิน เที่ยวบินรวม 340,670 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนหน้า ขณะที่จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 58.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.91% แสดงถึงการฟื้นตัวและความเชื่อมั่นของสายการบินและนักเดินทางทั่วโลก

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ทสภ. มุ่งพัฒนาคุณภาพการให้บริการตามแนวคิด World Class Hospitality Airport สนามบินที่ไม่ได้มีเพียงโครงสร้างขนาดใหญ่หรือเทคโนโลยีทันสมัย แต่ยังมอบความสะดวก ปลอดภัย และความประทับใจแก่ผู้โดยสาร ผ่านการนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ตั้งแต่การเช็กอิน การตรวจสอบความปลอดภัย จนถึงบริการเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครอบครัวอีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรการด้านพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนความมุ่งมั่นดังกล่าวส่งผลให้ ทสภ. ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ โดยได้รับการยกระดับจากท่าอากาศยานระดับ 3 ดาวเป็นท่าอากาศยานระดับ 4 ดาว จากการประกาศของ Skytrax องค์กรที่ปรึกษาด้านการจัดอันดับคุณภาพของสายการบินและท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลกจากสหราชอาณาจักร รวมถึงได้รับการจัดอันดับจาก Brilliant Maps ให้เป็นสนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ จากรายงานของ ACI Asia-Pacific and Middle East (ACI APAC & MID) ซึ่งได้ร่วมกับ PwC ได้จัดให้ ทสภ. ติดอันดับ 7 สนามบินศูนย์กลางการเชื่อมต่อที่มีศักยภาพสูงสุด และอันดับ 9 ของสนามบินที่มีการเชื่อมต่อทางอากาศสูงสุดในปี 2567


สำหรับแนวโน้มปีงบประมาณ 2569 ทสภ. คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 397,323 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 67.7 ล้านคน โดยจะมีสายการบินใหม่มาให้บริการ อาทิ United Airlines (เส้นทางลาสเวกัส – ฮ่องกง-กรุงเทพฯ) และแม้ว่าการจัดสรรเที่ยวบินช่วงซัมเมอร์ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนถึงศักยภาพของ ทสภ. ในฐานะศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

ขณะเดียวกัน แนวโน้มผู้โดยสารจากสหภาพยุโรป (EU) มีการขยายตัวต่อเนื่องจากการที่สายการบินไทยกลับมาเปิดหลากหลายเส้นทางสู่ยุโรปเพื่อเพิ่ม Connectivity ตามนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาล รวมถึงผู้โดยสารจากอินเดียที่เติบโตต่อเนื่องซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการพึ่งพาตลาดจีนเพียงตลาดเดียว ในอนาคต ทสภ. ยังเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถเพิ่มเส้นทางบินตรงสู่สหรัฐอเมริกาได้ หลังจากองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration – FAA) ปรับสถานะไทยกลับสู่ Category 1 (CAT1) ครั้งแรกในรอบ 10 ปี จากเดิมที่อยู่ใน Category 2 (CAT2) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ FAA มีต่อความปลอดภัยของหน่วยงานการบินพลเรือนของไทยในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเปิดโอกาสให้สายการบินไทยและต่างชาติสามารถขยายเส้นทางบินไกลได้อย่างเต็มศักยภาพยิ่งขึ้น

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ทสภ. ยังมีแผนเดินหน้าปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารโดยมีโครงการสำคัญหลายด้าน อาทิ การปรับปรุงเป็นพื้นที่กิจกรรมระหว่างรอขึ้นเครื่องสำหรับผู้โดยสารขาออก ทั้ง ณ อาคารเทียบเครื่องบิน (Concourse C และ F) และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (SAT-1) เช่น การเพิ่มพื้นที่ Kids Zone, Game Station รวมถึงโซนที่พักผ่อน เช่น Recliner Area (พื้นที่นั่งสำหรับเก้าอี้ปรับเอน) Co-Working Space, Piano Lounge รวมถึงดิจิทัลพาร์ค พร้อมกับดำเนินการติดตั้งเครื่องชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเป็น 203 ชุด จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 132 ชุด รวมถึงเดินหน้าปรับปรุงห้องน้ำทั้งอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินรวม 124 จุด โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จครบทุกจุดภายในปี 2571


นอกจากนี้ ด้านการให้บริการและความปลอดภัย ทสภ.เพิ่มเครื่อง Passenger Validation System (PVS) พร้อมปรับเปลี่ยนเครื่อง X-ray เป็นแบบ CT ที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งพัฒนาระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automated Border Control: ABC) เพื่อรองรับ E-passport เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า พร้อมกับการยกระดับการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. ยังได้ขับเคลื่อนการเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางอากาศโดยต่อเนื่อง นอกจากการพัฒนาระบบ Freezone Smart Access ระบบบริหารการเข้า–ออกพื้นที่เขตปลอดอากร แก้ปัญหาการจราจรหนาแน่นจากรถขนส่งสินค้ากว่า 8,000 คันต่อวัน ลดความล่าช้าในการรับ–ส่งสินค้า และป้องกันสินค้าตกเครื่องแล้ว ในระยะต่อไป ทสภ. ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตของ E-Commerce และตลาดโลก โดยมีแผนเพิ่มผู้ประกอบการคลังสินค้ารายที่ 3 ในปี 2571 เพื่อเสริมขีดความสามารถในการรองรับปริมาณสินค้าที่เติบโตต่อเนื่อง และขับเคลื่อนบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการค้า การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

การครบรอบ 19 ปี เป็นหลักหมุดที่สะท้อนความสำเร็จ ความเชื่อมั่น และการเติบโตของ ทสภ. ในทุกมิติและการก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 คือก้าวของการยกระดับจาก “ประตูสู่ประเทศไทย” ไปสู่ “World Class Hospitality Airport” ที่พร้อมต้อนรับผู้โดยสารจากทั่วโลกด้วยมาตรฐานระดับสากล เป็นสนามบินที่คนไทยภูมิใจ และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การคมนาคม และการท่องเที่ยวของประเทศต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]

กกต. จัดโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ย.- กกต. จัดกิจกรรมโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้ง สส. เขต 5 ศรีสะเกษ “สันทัด” หวังคนออกมาใช้สิทธิด้วยความ สุจริต ลดบัตรเสีย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานพิธีเปิด กิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่สนามกีฬาวงกลม อำเภอขุนหาญ กิจกรรมโรดโชว์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง และเชิญชวนให้ประชาชนอำเภอขุนหาญและภูสิงห์ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยกิจกรรมดังกล่าว มีพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนประชาชนออกไปแสดงพลังและใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายใต้เจตนารมณ์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง” เพื่อร่วมกันรณรงค์ขับเคลื่อนประชาธิปไตย นายสันทัด […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]