ทำเนียบ 26 ก.ย.-นายกฯ หนู สายมู อุ้มอัญเชิญ “องค์นรสิงห์จำลอง” สมัยยุคลุงตู่สร้าง ตั้งบูชาระเบียงตึกไทยคู่ฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.09 น. วันที่ 26 ก.ย. เจ้าหน้าที่กองสถานที่ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลได้ใช้รถตู้เบนซ์ สีดำ ทะเบียน 1นช 4268 กรุงเทพมหานครอัญเชิญรูปปั้น “องค์นรสิงห์จำลอง” ที่ตั้งสักการะบูชาอยู่ที่ตึกแสงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างทางเชื่อมกับตึกตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ย้ายไปตั้งสักการะบบูชา ที่บริเวณระเบียงด้านหน้า ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า เหมือนสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางบรรยายท้องฟ้าครึ้ม โดยก่อนการอัญเชิญได้มีพรหมณ์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูฤกษ์งามยามดีก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีดำริให้อัญเชิญ รูปปั้น “องค์นรสิงห์จำลอง” กลับที่ตั้งเดิมบนตึกไทยคู่ฟ้า
จากนั้น เวลา 12.49 น. นายกรัฐมนตรี ได้ถอดสูท สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว อุ้มอัญเชิญ “องค์นรสิงห์จำลอง”ตั้งไว้ที่ฐานเดิม โดยได้ตั้งชิดกับกำแพง และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ตั้งของบ้านพิษณุโลก พร้อมกับคล้องพวงมาลัย พร้อมสักการะและถ่ายภาพ ร่วมกับนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา
สำหรับองค์นรสิงห์จำลองดังกล่าวได้สร้างขึ้นในสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยให้โรงหล่อจัดทำขึ้นและนำมามอบให้เพื่อสักการะบูชา ตั้งแต้ต้นปี 2564 ซึ่งรูปปั้นองค์นรสิงห์มีความเชื่อตำนานพราหมณ์เล่าว่า นรสิงห์เป็นปางหนึ่งที่พระนารายณ์อวตารลงมาปราบอสูรร้าย นรสิงห์มีเศียรเป็นสิงห์ ร่างกายเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ที่ฆ่าไม่ตาย อีกทั้งตามประวัติของทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ตึกไทยคู่ฟ้า จะเป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี “องค์นรสิงห์”ได้อยู่คู่กับบ้านนรสิงห์ ของเจ้าพระยารามราฆพ มาตั้งแต่แรก (ปัจจุบันคือตึกไทยคู่ฟ้า) ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ จึงได้ให้โรงหล่อจัดทำ “องค์นรสิงห์จำลอง” ทำขึ้นมา
สำหรับประวัติบ้านนรสิงห์ หรือทำเนียบรัฐบาลในปัจจุบัน เดิมเป็นสมบัติของต้นตระกูลพึ่งบุญ ณ อยุธยา โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างบ้านพระราชทานแก่พระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมหลวงเฟื้อง พึ่งบุญ ณ อยุธยา) ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์สูงสุดเป็นเจ้าพระยารามราฆพ ซึ่งมีหน้าที่บัญชาการกรมมหรสพหน่วยงานซึ่งมี “นรสิงห์” เป็นตราประจำกรม.-319.-สำนักข่าวไทย