กรุงเทพฯ 25 ก.ย.- ตลท.เสนอนายกฯ ผลักดันกฎหมายปฏิรูปตลาดทุนไทย ขยายฐานนักลงทุน-สร้างความเชื่อมั่น ชี้กิโยตินกฎหมายทำได้ทันที หนุนจีดีพีโต 0.89% เสนอปรับโครงสร้างภาษี สร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำ
ศ.พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวภายหลังร่วมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า ตลาดหลักทรัพย์ ได้นำเสนอข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจตลาดทุนไทย โดยเสนอแก้ไขกฎหมายในรูปแบบ Omnibus Law หรือร่างกฎหมายฉบับรวม โดยเสนอเป็นวาระแห่งชาติของทุกพรรคการเมือง ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.การผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจผ่านโครงการ Regulatory Guillotine เพื่อลดความซ้ำซ้อน ล้าสมัย ลดโอกาสการทุจริต ให้การบังคับใช้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยที่มีการศึกษามา 2 -3 ปี ดังนั้น สามารทำได้ทันทีใน 4 เดือน หากสามารถกิโยตินกฎหมายได้สำเร็จจะสามารถ
ช่วยประหยัดต้นทุนของภาคเอกชนได้ถึง 1.34 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 0.89% ของ GDP
2.การผลักดันกฎหมาย เพื่อปฏิรูปตลาดทุน ขยายฐานนักลงทุนและสร้างความเชื่อมั่น โดยสนับสนุนให้ ธุรกิจ New Economy เข้าจดทะเบียน และขยายประเภทธุรกิจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะช่วย เพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าตลาดทุน เสนอเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ เช่น DR, ETFs ที่อ้างอิง Carbon Credit เพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทจดทะเบียนผ่านโครงการ Jump+, ส่งเสริมการระดมทุนของ Mid-Cap & Small-Cap Companies
3.การปรับโครงสร้างภาษีอากรของประเทศไทย โดยเสนอให้ขยายฐานภาษี ก้าหนดสิทธิประโยชน์ทาง
ภาษีอย่างเหมาะสม และปรับปรุงอัตราภาษีให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ มีการการน้าเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการจัดเก็บภาษี (eTax-Filing/eTax-Invoicing) และให้มีารปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายภาษีเฉพาะด้าน เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น เพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมและเพิ่มประสิทธิผลในการจัดเก็บ
“ทั้ง 3 เรื่องที่เสนอไป เรื่องที่ทำได้ก่อนคือกิโยตินกฏหมาย ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีคณะกรรมการรับผิดชอบ ใช้เวลา 1-2 เดือน จะมีผลสัมฤทธิ์ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจไม่มีการเมืองแทรกแซง จึงมองว่าข้อเสนอของเราจะได้รับการตอบรับหรือกลายเป็นเชื้อไฟให้รัฐบาลชุดต่อไปได้ทำต่อ” ประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าว.-516.-สำนักข่าวไทย