กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – กระทรวงพลังงานจัดประชุมออนไลน์ผู้บริหารระดับสูง ขีดเส้นระดมความเห็น 1 สัปดาห์ งัดมาตรการเร่งกู้สถานการณ์การแพร่เชื้อ Covid-19 เพิ่มเติม เตรียมเปิดช่องทางจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ประชาชนผ่านปั๊มน้ำมันเริ่ม 4 เม.ย. พร้อมประกาศเชิญชวนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 17 เม.ย.
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (30 มี.ค.) กระทรวงพลังงานได้จัดประชุมผู้บริหารระดับสูงผ่านระบบออนไลน์ โดยที่ประชุมได้หารือเพื่อวางแผนนำมาตรการด้านพลังงานมาช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 เพราะขณะนี้กระทบต่อเศรษฐกิจวงกว้าง โดยได้ฝากผู้บริหารทุกหน่วยงานช่วยกันคิดแผนหรือมาตรการด้านพลังงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นและแก้ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ของประเทศ ขอให้นำเสนอแนวคิดภายใน 1 สัปดาห์ โดยกระทรวงพลังงานจะใช้ทุกองคาพยพที่มีอยู่เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคไปพร้อม ๆ กัน
“ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือบริษัทด้านพลังงานและระดมสมองในการแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกบริษัททุกหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทุกด้านมีทั้งการบริจาค การจัดหาเครื่องมือแพทย์และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงขอให้หน่วยงานไปคิดหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จากปัญหาแอลกอฮอลล์ความเข้มข้น 70% ยังมีราคาสูงและประชาชนหาซื้อได้ยาก ทางกระทรวงพลังงานจะเข้ามาร่วมผลักดันให้มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมัน เช่น ปตท. บางจาก เชลล์ และผู้ค้ามาตรา 7 ซึ่ง ปตท.แจ้งว่าจะเริ่มจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ประชาชนในราคาที่เป็นธรรม เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน เป็นต้นไป เบื้องต้นจะหลักหมื่นลิตร ในเขต กทม.และปริมณฑลก่อนและจะเพิ่มเป็น 100,000 ลิตรต่อวัน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ หาบรรจุภัณฑ์ได้ค่อนข้างยาก ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง ภายหลังจากกระทรวงพลังงานปลดล็อกการนำแอลกอฮอล์ส่วนเกินจากการใช้ในภาคพลังงาน 1 ล้านลิตรเข้าสู่ตลาดแล้ว
ส่วนการเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการทุกด้าน โดยขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนและรับข้อเสนอได้ตามกำหนดการเดิม ภายในวันที่ 17 เมษายน 2563 และจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งนโยบายนี้กระทรวงพลังงานจะเร่งรัดให้สามารถดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะจะมีส่วนช่วยนำรายได้จากการจำหน่ายเชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ กระจายสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้เพิ่มขึ้น
ในส่วนการส่งเสริมน้ำมันดีเซล B10 ปัจจุบันมียอดการใช้ประมาณกว่า 12 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าเดือนเมษายนนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 20 ล้านลิตร/วันได้ ช่วยสร้างรายได้แก่ชาวสวนปาล์ม รวมถึงจะมีมาตรการเพื่อตรวจสอบและป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการเพื่อเร่งมาตรการช่วยภัยแล้ง โดยเร่งรัดโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับภัยแล้งปีนี้ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมใช้ 2,265 ระบบ . – สำนักข่าวไทย