กรุงเทพฯ 28 มี.ค.–คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จับมือ
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) พัฒนากรมธรรม์ประกันภัย
“โดรน” ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19
นายสุทธิพล ทวีชัยการ
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)
เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการใช้งานอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน
มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่ระดับราคาไม่สูงเหมือนในอดีตจึงทำให้มีการใช้ โดรน อย่างแพร่หลายในหลายๆ
ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสื่อสาร ด้านการเกษตร ด้านการสำรวจ ฯลฯ
ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
เป็นหน่วยงานกำกับการดำเนินธุรกิจทางอากาศยาน ตามประกาศกระทรวงคมนาคม
เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก
พ.ศ.2558
เพื่อควบคุมดูแลการใช้โดรนให้เป็นไปอย่างเหมาะสม
โดยกำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ใช้โดรนใน 3
ประเภท คือ 1. โดรนติดกล้อง 2. โดรนที่หนักเกิน
2 กิโลกรัม และ 3. โดรนที่น้ำหนักมากกว่า
25 กิโลกรัม
และที่สำคัญในการขึ้นทะเบียนดังกล่าวได้กำหนดให้ต้องมีเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย
ซึ่งคุ้มครองความเสียหายอันเกิดแก่ร่างกาย ชีวิต ตลอดจนทรัพย์สินของบุคคลที่สาม
วงเงินประกันไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท ต่อครั้งเป็นหลักฐานประกอบการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าวด้วย
สำนักงาน คปภ.
ได้เล็งเห็นความสำคัญในการใช้โดรนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หากมีการนำโดรนมาใช้สำรวจภัย ความเสียหาย หรือเก็บข้อมูลจากคน สถานที่
ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีการเน้น social distance หรือ
การรักษาระยะห่าง ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ดังนั้นเลขาธิการ คปภ. จึงได้มอบหมาย
นายชูฉัตร ประมูลผล รองเลขาธิการด้านกำกับ
พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงกรมธรรม์ดังกล่าว
เข้าประชุมหารือร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ของกพท. โดยมีนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.
เป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ณ
สำนักงานการบินพลเรือนฯ ตึกไอทีสแควร์ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โดยได้ข้อสรุปร่วมกัน 3
ประเด็นที่สำคัญ คือ ประเด็นแรก
แนวทางในการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายจากการใช้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก
(โดรน) เพื่อใช้ประกอบการขึ้นทะเบียนผู้ใช้โดรน
ซึ่งจะจัดทำเป็นกรมธรรม์ประกันภัยแบบมาตรฐานร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย
ด้วยการสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก กพท.
เพื่อให้ความคุ้มครองที่สอดคล้องกับกฎหมายและเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบเอกสารการขึ้นทะเบียน
ประเด็นที่ 2
การพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้ขนส่งที่ดำเนินการรับขนทางอากาศที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรับขน
(Freight Forwarder) เพื่อให้การประกันภัยมีความต่อเนื่องและครอบคลุมตลอดเส้นทางการขนส่ง
ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยส่วนหนึ่งรับประกันภัยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามจะมีการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดของผู้ขนส่งฯ
ฉบับมาตรฐานเพิ่มเติม
ซึ่งมีแนวทางในการพิจารณารับประกันภัยแบบกลุ่มร่วมกับสมาคมขนส่งฯ ที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ 3
การปรับใช้โดรนสำหรับธุรกิจประกันภัยที่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย
เนื่องจากการใช้โดรนในการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ห่างไกล
หรือใช้สำหรับตรวจสอบความเสี่ยงก่อนพิจารณารับประกันภัยเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ
เช่น ห้ามทำการบินในบริเวณเขตห้าม/เขตจำกัด ทั้งนี้ ผู้บังคับโดรนต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบิน
เป็นต้น ซึ่ง กพท.
รับทราบประเด็นดังกล่าวเพื่อนำไปพัฒนาแนวทางการกำกับที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้
ยังได้หารือเกี่ยวกับการประกันภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ
กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับสายการบินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน และกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้ขนส่งที่ดำเนินการรับขนส่งทางอากาศ
ซึ่งพบว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยในตลาดรองรับและไม่พบอุปสรรคในการดำเนินงานใดๆ
“สำนักงาน คปภ.
ให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งในต่างประเทศได้มีการนำโดรนมาใช้ในระบบการเคลมค่าสินไหมทดแทนในกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนกันบนท้องถนน
ทำให้คู่กรณีสามารถเคลื่อนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุออกจากผิวจราจรได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว
ดังนั้น ถ้าส่งเสริมให้มีการพัฒนาและใช้โดรนสำรวจภัย ความเสียหาย
หรือเก็บข้อมูลจากคน สถานที่ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจะเป็นการตอบโจทย์ social
distance หรือ
การรักษาระยะห่างก็จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นสำนักงาน คปภ.
จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาและปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้ใช้โดรน
เพื่อให้มีความเหมาะสมกับความเสี่ยงภัยของทั้งผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน
รวมถึงกำหนดความคุ้มครองให้สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับต่างๆ
เพื่อจัดทำเป็นกรมธรรม์ประกันภัยแบบมาตรฐานต่อไป” เลขาธิการ
คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย