คปภ. ส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนอุ่นใจด้วยความคุ้มครองด้านประกันภัย

เปิดตัว 2 กรมธรรม์ใหม่ “ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ระยะเวลา 30 วัน คุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท และ “ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยปีใหม่สุขใจบ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์)” ระยะเวลา 30 วัน คุ้มครองสูงสุด 30,000 บาท พร้อมจัดกิจกรรมต้นแบบ “ขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปอีสาน ไปทะเลตะวันตก” สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรี..! ทั้งนี้หากมีปัญหาด้านประกันภัยช่วง 7 วันอันตราย สายด่วน คปภ. 1186 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง


เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิด “โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2566” และงานแถลงข่าวเปิดตัว “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัยและกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยปีใหม่สุขใจบ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์)” ณ อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 1-2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “รถพร้อม คนพร้อม ประกันพร้อม” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ ปลูกฝังและกระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่และการโดยสารปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว รวมถึงรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายมากขึ้นและเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตในวิถีถัดไป (Next Normal) สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์เชิงรุกด้วยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบ Hybrid ทั้งการจัดงานในพื้นที่ (on-ground) และการจัดงานคู่ขนานในรูปแบบ online เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างทั่วถึง โดยมี ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย นายกสมาคมการค้าผู้สำรวจภัยไทย ผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ร่วมเปิดโครงการฯ โดยมีสำนักงาน คปภ. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงภาคธุรกิจประกันภัยและประชาชน เข้าร่วมการจัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนพร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ PR OIC

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวเปิดโครงการ ในตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะเป็นหนึ่ง ในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งได้บูรณาการการทำงานเชิงรุกโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับขี่ ร่วมกับ


สำนักงาน คปภ. ภาค สำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัย และในปีนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการในหลายส่วนเพื่อร่วมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีกิจกรรมสำคัญ ๆ อาทิ กิจกรรมแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยในการขับเคลื่อนการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนตามนโยบายรัฐบาล ในรูปแบบ Hybrid (Online & On-ground) กิจกรรมมอบของสนับสนุนโครงการความปลอดภัยทางถนนของภาคอุตสาหกรรมประกันภัยเพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยร่วมรณรงค์โครงการ เพื่อให้องค์กรเครือข่ายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปใช้ประกอบการจัดกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการเปลี่ยนหลอดไฟสำหรับรถจักรยานยนต์ ณ สำนักงาน คปภ. ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการร่วมสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว รวมทั้งกิจกรรมการให้บริการประชาชนด้านการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 7 วัน อันตราย (ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566) ผ่านช่องทางสายด่วน คปภ. 1186

รวมทั้งการแถลงข่าวเปิดตัว “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย และกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยปีใหม่สุขใจ บ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์)” ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยดังกล่าวให้มีความพิเศษกว่าทุก ๆ ปี เพื่อให้ครอบคลุมทั้งการเดินทางและที่อยู่อาศัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากที่สุด

โดยกรมธรรม์แรก คือ กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ความคุ้มครองหลัก ได้แก่ กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท ในส่วนของผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 15 วันแรก นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) จำนวนเงินเอาประกันภัย 5,000 บาท สำหรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วยอวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย ค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็ม จำนวนเงินเอาประกันภัย 5,000 บาท


กรมธรรม์ที่สอง คือ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยปีใหม่สุขใจบ้านปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) มีรายละเอียดความคุ้มครอง ได้แก่ กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจาก ไฟไหม้ /ฟ้าผ่า/ระเบิด ความคุ้มครองขึ้นอยู่กับสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ สิ่งปลูกสร้างเป็นคอนกรีต (มีผนังก่ออิฐถือปูนมากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ผนังทั้งหมด) ได้รับความคุ้มครอง 30,000 บาท สิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ (มีผนังก่ออิฐถือปูน ร้อยละ 50 – 80 ของพื้นที่ผนังทั้งหมด) ได้รับความคุ้มครอง 15,000 บาท สิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่ไม่ใช่ตึกหรือครึ่งตึกครึ่งไม้และไม่เป็นห้องแถวไม้ (มีผนังเป็นวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้ สังกะสี กระเบื้องแผ่นเรียบมากกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ผนังทั้งหมด) ได้รับความคุ้มครอง 10,000 บาท สิ่งปลูกสร้างเป็นห้องแถวไม้ ได้รับความคุ้มครอง 5,000 บาท กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจาก ลมพายุ /น้ำท่วม/แผ่นดินไหว/ภูเขาไฟระเบิด/คลื่นใต้น้ำ/สึนามิ/ลูกเห็บ ทุกภัยรวมกันได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 1,000 บาท การขยายความคุ้มครองค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราว จำนวนเงินไม่เกินวันละ 300 บาท และรวมแล้วไม่เกิน 30 วัน ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย

รวมทั้ง การประกันภัยโจรกรรม คุ้มครองการลักทรัพย์ที่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ การชิงทรัพย์ การปล้นทรัพย์ ที่อยู่อาศัยปัจจุบันของผู้เอาประกันภัย ความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างที่ระบุร่องรอย ความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างและ/หรือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนล็อคประตูหน้าต่าง จำนวนเงินเอาประกันภัยไม่เกิน 5,000 บาท
โดยกรมธรรม์ทั้ง 2 ประเภท เป็นกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาความคุ้มครอง 30 วัน ผู้เอาประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยแต่ละรายมีสิทธิได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 1 กรมธรรม์ต่อผู้ประกอบการ 1 ราย เท่านั้น ผู้สนใจสามารถรับสิทธิ ได้จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 หรือท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oic.or.th สายด่วน คปภ. 1186 และ Line Official : @oicconnect

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า การจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยทั้ง 2 ประเภทในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย โดยได้นำผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีราคาถูกมาพัฒนาต่อยอด เพื่อขยายฐานการประกันภัยให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น โดยสำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการส่งเสริมให้ทำประกันภัยรายย่อยอย่างแพร่หลายและขยายตัวในวงกว้าง โดยจัดทำ 3 กิจกรรมต้นแบบเพื่อนำร่องในปีนี้ ได้แก่ กิจกรรมต้นแบบแรก ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปอีสาน ไปทะเลตะวันตก ประชาชนที่เดินทางไปพักโรงแรม/ที่พักในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น และชลบุรี สามารถสแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ได้ฟรี

กิจกรรมต้นแบบที่ 2 สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ประสานงานผู้ประกอบการในพื้นที่มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรี ให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ฟินิกซ์ แอดเวนเจอร์ พาร์ค, โป่งแยง จังเกิ้ล, โคสเตอร์&ซิปไลน์, ปางช้างแม่แตง อุทยานหลวงราชพฤกษ์, สวนสัตว์เชียงใหม่ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นต้น

กิจกรรมต้นแบบที่ 3 สำนักงาน คปภ. ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่เที่ยวไทยปลอดภัย (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรี ให้กับ เศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) เพื่อเป็นต้นแบบของผู้แทนเกษตรกรที่ใช้ระบบการประกันภัยในการบริหารความเสี่ยงให้กับตนเอง ครอบครัว และเกษตรกรรม

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ในปีนี้มีหลากหลายธุรกิจ เช่น ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ร้านกาแฟ ปั้มน้ำมัน และบริษัทนายหน้าประกันภัยนิติบุคคล เป็นต้น ที่มีสถานบริการเครือข่ายทั่วประเทศ โดยมีจำนวนลูกค้ารวมทุกผู้ประกอบการมากกว่า 50 ล้านคน

“ผมขอส่งความห่วงใยและความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางเพื่อท่องเที่ยว ด้วยความปลอดภัย และก่อนออกจากบ้านอย่าลืมตรวจความพร้อมของสภาพร่างกาย ตรวจความพร้อมของสภาพรถ ตรวจความพร้อมของประกันภัย พ.ร.บ. และประกันภาคภัยสมัครใจ เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง และขอฝากให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดโดยขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัยหรือสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในระหว่างการเดินทางในช่วง 7 วันอันตราย สำนักงาน คปภ. ได้เปิดให้บริการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางสายด่วน คปภ. 1186 ช่องทางไลน์ Official @oicconnect และช่องทางเว็บไซต์สำนักงาน คปภ. www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

เร่งเทปูนใต้อาคาร สน.สามเสน “พิพัฒน์” คาดคืนผิวจราจร 8 ต.ค.

28 ก.ย.- จนท.เร่งเทปูนทำฐานรากใต้อาคาร สน.สามเสน ให้สูงถึงระดับเสาเข็มที่ขาดไป และจะใช้เครนขนาดใหญ่ยกวัสดุสิ่งของในหลุมขึ้นมา ก่อนถมดิน-หินคลุก เพื่อคืนพื้นผิวถนน ด้าน “พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า หวังทุกอย่างเป็นตามเป้าหมาย คืนผิวจราจรได้ 8 ต.ค.นี้ -สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ฟาดกัมพูชากลางเวที UNGA รับบทเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิวยอร์ก 28 ก.ย.-“สีหศักดิ์” ฟาดกลับกัมพูชา กลางเวที UNGA แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง ชี้ ทหารที่เสียขา เด็ก และปชช.ผู้บริสุทธิ์ คือเหยื่อที่แท้จริง ลั่น! บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เป็นอธิปไตยไทยแต่กัมพูชารุกล้ำ ย้ำไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด ถามกลับกัมพูชาจะเลือกเส้นทางเผชิญหน้าหรือเส้นทางสันติภาพ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก โดยนายสีหศักดิ์ ได้ย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ และภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และย้ำความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเสนอว่า ควรมีการพัฒนาระบบสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปและแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เป็นผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ 2 ประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ ”ครอบครัวอาเซียน” […]

ทบ.เปิดไทม์ไลน์เขมรจัดฉากวางแผนล่วงหน้า ยิงถล่มช่องอานม้า

28 ก.ย.- กองทัพบก ชี้ กัมพูชาจัดฉาก ปมเหตุการณ์กัมพูชายิงอาวุธหลายขนาดใส่พื้นที่ช่องอานม้า เป็นการวางแผนล่วงหน้า ทั้งการยั่วยุด้วยอาวุธ การนัดหมายคณะ IOT เข้าพื้นที่ และการแถลงบิดเบือนกล่าวหาไทย ทั้งหมดเป็นเพียง “การสร้างสถานการณ์” ของฝ่ายกัมพูชา เมื่อวานนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ฝ่ายกัมพูชาได้ทำการใช้อาวุธยิงหลายขนาดเข้ามาในพื้นที่เขตอธิปไตยไทย บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นั้น มีลำดับเหตุการณ์สำคัญที่กองทัพบกได้บันทึกไว้ ดังนี้ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเมื่อพิจารณาประมวลลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนแล้ว พบว่ามีลักษณะ “การทำงานที่ดูมีความประสานสอดคล้องกันจนผิดธรรมชาติ”ต่างจากทุกๆ เหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา ชี้ให้เห็นถึงการเตรียมการวางแผนล่วงหน้า เริ่มจาก “การยั่วยุด้วยอาวุธ” ที่มุ่งหวังบันทึกภาพ และบิดเบือนว่าฝ่ายไทยเข้าโจมตีละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สอดรับกับการนัดหมายให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) กัมพูชาเข้ามาเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และปิดท้ายด้วยการแถลงชี้แจงเพื่อกล่าวหาฝ่ายไทย โดยทางการฝ่ายกัมพูชา พร้อมสร้างภาพว่าเป็นผู้ถูกกระทำต่อสังคมโลก ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียง “เป้าหมายของการโฆษณาชวนเชื่อ“ เท่านั้น ในความเป็นจริงคือ ฝ่ายกัมพูชาจงใจวางแผนสร้างเรื่อง ใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตไทย […]

คึกคัก! เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ทยอยใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า

ศรีสะเกษ 28 ก.ย. – บรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ที่อำเภอขุนหาญ เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า แม้จะมีความกังวลเรื่องความไม่สงบ แต่ส่วนใหญ่ยืนยันต้องการทำหน้าที่ของตนเอง เวลา 08.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ศาลาวัดบ้านจะเนียว เจ้าหน้าที่ได้ประกาศความพร้อมและทำการเปิดหีบเลือกตั้ง มีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มารอตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ตำรวจ อส. และ รด.จิตอาสา คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า แม้จะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในการจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐ และตั้งใจมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งที่หน่วยดังกล่าวด้วย สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอขุนหาญและภูสิงห์ เปิดให้ประชาชนมาใช้สิทธิลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน กกต. 1444 . – 716. – สำนักข่าวไทย