รัฐขอให้คนเดินทางกลับต่างจังหวัดกักตัวเอง 14 วัน

ทำเนียบฯ 23 มี.ค.- “เทวัญ” เผย รัฐบาลห้ามคนเดินทางกลับต่างจังหวัดไม่ได้ แต่ขอให้กักตัวเอง 14 วัน กำชับจังหวัดทำแผน ป้องกันโรคระดับชุมชน หมู่บ้าน ประธานสมาคมธนาคารไทย ยันเงินสดมีเพียงพอ เอทีเอ็มกดใช้ได้ ธนาคารพร้อมให้บริการ  ด้านมหาดไทย มอบผู้ว่าคัดกรอง สั่งกักตัว 14 วันกลุ่มเสี่ยง ตามความเหมาะสม


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  แถลงผ่านศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า สถานการณ์ผู้ป่วยที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในวันนี้ 122 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสม 721 ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานมานั้น รัฐบาลยังต้องขอความร่วมมือประชาชน ในเขต กทม. และปริมณฑล ให้อยู่บ้าน งดเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากมีประกาศจากกรุงเทพมหานคร ปิด สถานที่หลายแห่ง จนประชาชนและแรงงานต่างด้าวกลับภูมิลำเนา เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถห้ามได้ จึงมีมาตราการรองรับที่ต่างจังหวัดด้วยการให้แต่ละจังหวัดทำแผน ป้องกันโรคระดับชุมชน หมู่บ้าน และขอให้คนที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ แยกตัวพร้อมสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้เดินทาง ออกจากกรุงเทพฯ รัฐบาลอยากให้อยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไปก่อน เพราะกังวลว่าอาจเป็นผู้นำเชื้อไปติดญาติ ส่วนคนไทยที่เสียชีวิตที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศจะให้ความช่วยเหลือและประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป 


นายเทวัญ กล่าวว่า ทางรัฐบาลจีนได้บริจาค เวชภัณฑ์ชุดตรวจคนไข้ตลอดจนหน้ากากอนามัยให้กับประเทศไทยซึ่งทางรัฐบาลไทยขอขอบคุณรัฐบาลจีนเป็นอย่างสูง ขณะเดียวกันคณะกรรมการเยียวยา เตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งจะมีการเสนอรายละเอียดในการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.)

ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องคำสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ เป็นการชั่วคราว ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นที่มาให้ทาง กทม.ต้องดำเนินการไม่ให้สถานการณ์การระบาดดังกล่าวขยายวงกว้าง จึงได้ประชุมร่วมกับทีมแพทย์โรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. อาทิ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ ซึ่งลงความเห็นว่าวิธีป้องกันยับยั้งไม่ให้ผู้คนเดินทางออกจากบ้านหรือมาอยู่รวมกัน โดยเฉพาะในสถานที่ปิด ห้างสรรพสินค้า สนามมวย ฯลฯ ทั้งยังป้องกันไม่ให้ผู้คนเคลื่อนย้าย ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทาง กทม. จึงออกมาตรการประกาศดังกล่าวออกมา 

โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ส่วนที่มีคำถามว่าภายหลังจากมีคำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนเดินทางกลับบ้านจนแน่นสถานีขนส่งหมอชิตนั้น การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนนั้นอยู่เหนืออำนาจของ กทม.ในการสั่งห้ามเดินทาง แต่ข้อมูลตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางกลับด้วยรถโดยสารประจำทาง พบว่า 90% เป็นผู้ใช้แรงงานต่างชาติ ลาว เมียนมา กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่าน ขณะที่อีก 10% เป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 


ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า ส่วนธนาคารที่อยู่ทั้งใน-นอกห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการตามปกติ  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทุกแห่งยังคงเปิดให้บริการตามปกติ  แต่เป็นการให้ซื้อกลับไปรับประทานเท่านั้น ยกเว้นในพื้นที่สนามบินที่จะยังคงมีโต๊ะให้นั่งรับประทาน แต่จะมีมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย

นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้โรคระบาดไปไกลที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา สถานการณ์นี้จึงต้องการความร่วมแรงร่วมใจและปฎิบัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์แนะนำ สำหรับการแพร่เชื้อทางอากาศที่หลายคนวิตกกังวลว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถอยู่ในอากาศได้นานขึ้นนั้น ขอชี้แจงว่าเชื้อไวรัสฯนี้สามารถแพร่เชื้อได้ทางอากาศแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่พบไม่มาก ดังนั้นในทางการแพทย์จึงแนะนำให้ใส่หน้ากาก n95 

นายแพทย์ทวี  กล่าวว่า ขอแนะนำประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน ให้ทยอยกันเดินทาง อย่าไปเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะมีโอกาสสูงในการแพร่เชื้อได้ และเมื่อกลับถึงบ้านให้ล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย ใส่หน้ากากอนามัย ก่อนมาพบครอบครัว สิ่งสำคัญคือต้องระวัง ไม่พาตัวเชื้อไปแพร่เชื้อเพิ่มและอดใจกักตัวเองไว้ 14 วัน เพราะถึงแม้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็มีโอกาสที่เชื้อจะอยู่ในระยะอาการน้อย หรือฟักตัวแล้วกลับไปแสดงอาการที่บ้านได้

นายสมคิด  จันทมฤก  รองปลัดกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย  กล่าวถึงมาตรการการรองรับคนในกรุงเทพฯเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะอาจจะเป็นเสียงนำเชื้อโรคไปต่างจังหวัดว่า ได้วางกรอบแนวทางโดยมีทีมดูแล ค้นหา เฝ้าสังเกตการณ์ ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ผู้ช่วยสารวัตร เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้ที่นายอำเภอแต่งตั้ง ซึ่งทีมดังกล่าวจะกระจายอยู่ทุกหมู่บ้านทุกตำบล นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเน้นย้ำให้ดูแลผู้สูงอายุเพิ่มเติม เพราะเสี่ยงการติดเชื้อ โดยมี อสม. ให้คำแนะนำเป็นพิเศษ รวมถึงมีแผนปฏิบัติการจะดูแลผู้กักตัวที่เดินทางจาก กทม.ให้ครบ 14 วัน

ส่วนกรณีที่มีคนไม่ยอมกักตัวและยังใช้ชีวิตตามปกติ จะสามารถกำกับดูแลควบคุมได้อย่างไรนั้น นายสมคิด กล่าวว่า หากฝ่าฝืนไม่ยอมกักตัว ก็จะมีโทษทั้งจำและปรับ ลำดับแรกจะขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ หากไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่แต่งตั้งโดยกระทรวงมหาดไทยก็สามารถเอาผิดได้

ขณะที่นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ยืนยันมีเงินสดเพียงพอที่จะให้ประชาชนมาเบิกถอนนำไปใช้จ่ายได้ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านตู้เอทีเอ็มในระบบของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ 54,000 ตู้ ในส่วนของสาขาธนาคารต่างๆ นับรวมทั้งสาขาที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันมี 6,800 กว่าแห่ง ซึ่งธนาคารทุกแห่งยังเปิดให้บริการตามปกติ และยังมีช่องทางการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทางอินเตอร์เน็ต และทางโมบายแบงค์กิ้ง

นายปรีดี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการเรื่องสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อผู้ประกอบการและสินเชื่อบุคคลที่ใช้บริการกับธนาคารต่างๆ กว่า 3-4 ล้านราย ยังให้บริการเป็นปกติ แม้การค้าขายจะมีอาการหยุดชะงักไปบ้าง จึงมีมาตรการต่างๆ เช่น การพักชำระเงินต้น หรือการพิจารณาว่าลูกค้ารายใดมีความสามารถในการชำระลดลงไป เราจะช่วยเหลือลูกค้าได้ประมาณ 3 หมื่นราย ซึ่งความช่วยเหลือในส่วนนี้จะต้องมาเรื่อยๆ

“ในเรื่องของสภาพคล่องทางธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมมือกับทางภาครัฐ ซึ่งทางภาครัฐได้จัดเตรียมวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารออมสินมาให้ทางธนาคารพาณิชย์เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับลูกค้าในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในส่วนนี้แล้ว นอกจากนี้ภาครัฐยังมี บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันลูกค้าให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 6 หมื่นล้านบาท”

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโควิด19 อย่างเป็นทางการ รวมอยู่ในเวปไซด์ของทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th และเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะใช้ยาแรงหากมีความจำเป็น โดยก่อนตัดสินใจจะสอบถามข้อมูลรอบด้านจากทุกฝ่าย  ส่วนมาตรการเยียวยา ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกจ้าง โดยในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้จะมีมติออกมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในหลายด้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย