กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการในสถานการณ์โควิด-19 ย้ำคำนึงความมั่นคงภาคเกษตรสำคัญที่สุด มั่นใจสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ขาดแคลน เตรียมจ้างแรงงานเกษตรและแรงงานเดินทางกลับท้องถิ่น เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงชีพ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ผ่านระบบ VDO เพื่อเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดโควิด-19 โดยให้ปลัดกระทรวงฯ มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ติดตามสถานการณ์พืชผลทางการเกษตรและภัยแล้งแล้วรายงานทุกระยะ ทุกหน่วยงานต้องประสานข้อมูลกัน เพื่อประเมินความเสี่ยงสถานการณ์ ทั้งระหว่างเผชิญและหลังเผชิญเหตุทุกมิติ ทำให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที
นายเฉลิมชัย ย้ำว่าความมั่นคงของภาคการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นความมั่นคงด้านอาหาร ดังนั้น ต้องดูแลระบบอาหารตลอด Supply Chain ทั้งการผลิต การขนส่ง คุณภาพอาหาร การกระจายสินค้า และราคาที่เหมาะสม ปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร งานบริการ ระบบสื่อสารประสานงานจะต้องพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคที่อาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ตลอดจนภัยแล้งที่จะต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม
ส่วนสิ่งที่เป็นห่วงอีกประการ คือ การลักลอบนำสินค้าเกษตรเข้ามาตามแนวชายแดน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านส่งสินค้าไปจีนไม่ได้ จึงสั่งการให้ประสานกับกรมศุลกากรเข้มงวดตรวจสอบสินค้าตามแนวตามชายแดนให้นำเข้าอย่างถูกต้องและได้มาตรฐาน มอบสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เพิ่มช่องทางนำสินค้าเกษตรเข้าสู่ออนไลน์เพิ่มมากขึ้นและติดตามสถานการณ์ผลผลิตร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อย่างใกล้ชิด และมอบกรมปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์อย่างเข้มงวด กรมชลประทานจัดสรรงบประมาณจ้างแรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เกษตรกรหรือประชาชนที่เดินทางกลับท้องถิ่นมารับจ้างทำงานภาคการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากขาดแคลนค่าครองชีพ
“ขอให้ข้าราชการทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่มุ่งช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้ รวมทั้งต้องเตรียมระดมทรัพยากร งบประมาณเพื่อกำหนดแนวทางในการฟื้นฟูภาคการเกษตรด้วย” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย