ปักกิ่ง 12 ก.ย. – สภาประชาชนแห่งชาติของจีนได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันนี้ เพื่อให้การรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้อำนาจประชาชนในการรายงานเหตุฉุกเฉินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโครงสร้างลำดับชั้นของรัฐบาลตามปกติ
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
เมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรก ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการล่าช้าในการรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงปลายปี 2019 จักษุแพทย์คนหนึ่งในโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่น เคยแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ในช่วงต้นปี 2020 แต่กลับถูกตำรวจท้องถิ่นตักเตือนฐาน “เผยแพร่ข่าวลือ” โดยเขาเสียชีวิตในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งจุดชนวนให้เกิดคลื่นความโศกเศร้าและความไม่พอใจในหมู่ประชาชน
นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ท้องถิ่นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และปรับปรุงการตรวจจับและควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงต้น ตามร่างกฎหมายนี้ระบุว่า บุคคลหรือหน่วยงานใดก็ตามที่พบภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข สามารถรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังรัฐบาลท้องถิ่นหรือหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนระดับกลาง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่า หลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้น รัฐบาลประจำเขตที่เกิดเหตุควรเริ่มดำเนินการรับมือทันที และสามารถรายงานไปยังหน่วยงานที่สูงขึ้นได้หากจำเป็น
ในช่วงการรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รัฐบาลท้องถิ่นระดับเขตขึ้นไปควรให้บริการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน ดูแลเป็นพิเศษ และรับประกันว่าผู้คนจะได้รับการรักษาพยาบาล
ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก นับจนถึงสิ้นปี 2023 มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกสูงถึง 21 ล้านคน ซึ่งเกินกว่ายอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ประมาณ 7 ล้านคน.-813.-สำนักข่าวไทย