กทม. 13 มี.ค. – ขณะนี้มีการยกเลิกรถโมบายธงฟ้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยไปแล้ว ขณะที่หน้ากากอนามัยที่จำหน่ายตามร้านธงฟ้าประชารัฐ-ร้านสะดวกซื้อ ก็หายากมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการใช้ที่มากเกินกำลังผลิตวันละ 1.2 ล้านชิ้น แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่หายไป เพราะมีคนกักตุน โก่งราคาขาย
คิวยาวเหยียดของผู้คนที่รอซื้อหน้ากากอนามัยจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ได้รับจัดสรรมาจากกรมการค้าภายใน จำนวน 1,000 ชิ้น ขายหมดในเวลาไม่กี่นาที
การจัดสรรหน้ากากอนามัยโดย “ศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย” เกิดขึ้นหลังหน้ากากอนามัยขาดแคลนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จนรัฐบาลต้องประกาศให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสินค้าควบคุม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ให้โรงงานผลิตทั้ง 11 แห่ง ต้องผลิตหน้ากากส่งมาที่ศูนย์แห่งนี้ กำลังการผลิตเดือนละ 36 ล้านชิ้น หรือวันละ 1.2 ล้านชิ้น ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 700,000 ชิ้น ให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบจัดสรรหน้ากากให้กับโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย องค์การเภสัชกรรม และองค์การอาหารและยา อีก 500,000 ชิ้น ให้กรมการค้าภายในกระจายสินค้าให้ประชาชนผ่านทางร้านค้าสะดวกซื้อ-ร้านธงฟ้าประชารัฐ และรถโมบายมากกว่า 100 คัน แต่ล่าสุดเพิ่งยกเลิกรถโมบายไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เหตุผลที่ยกเลิกรถโมบายว่าไม่ตอบโจทย์ ขณะที่ร้านธงฟ้าต่างๆ ก็มีสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ขณะที่มีเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ไปถามหาหน้ากากอนามัยจากร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่เคยมีสินค้า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า ร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดที่ได้รับจัดสรรหน้ากากอนามัยจะทำแผนกระจายสินค้าเองว่าจะวางจำหน่ายสาขาใดบ้าง
ท่ามกลางความต้องการหน้ากากอนามัยที่สูงขึ้น กลับมีการกักตุน โก่งราคาสูงขึ้นนับ 10 เท่า ที่สุดมีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ให้ขายหน้ากากอนามัยแบบสีเขียวที่ผลิตในประเทศไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา หลังประกาศเป็นสินค้าควบคุมได้เพียง 1 เดือน ซึ่งมีการจับกุมผู้กระทำผิดทุกวัน ข้อหาที่มีการจับกุมสูงสุดคือ ขายเกินราคาควบคุม รองลงมาคือ ไม่ติดป้ายแสดงราคาและขายแพงเกินจริง
แต่ก็ยังมีคนใช้วิธีตั้งราคาขายไม่เกิน 2.50 บาท แล้วคิดค่าส่งแพงเกินจริงไปถึงเกือบ 1,000 บาท ปลัดกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความต้องการหน้ากากอนามัยที่ยังเพิ่มขึ้น ทำให้ขณะนี้กรมการค้าภายใน อย. และองค์การเภสัชกรรม จัดสรรหน้ากากอนามัยแบบวันต่อวัน เพื่อกระจายหน้ากากให้กับบุคลากรทางการแพทย์ คนกลุ่มเสี่ยง และกระจายสู่ประชาชนให้ทั่วถึงมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย
