สภาหอฯ ถกภาคธุรกิจรับมือโควิด-19

กรุงเทพฯ 9 มี.ค.- สภาหอการค้าไทยนำ 8 กลุ่มธุรกิจ ถกรับมือโควิด-19 ส่งรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ด้าน ททท.ปรับลดเป้านักท่องเที่ยว กรณีดีมีความเป็นไปได้ร้อยละ 70 ลดเหลือ 34.2 ล้านคน กรณีเลวร้าย มีความเป็นไปได้ร้อยละ 30 จะมียอดเหลือเพียง 30 ล้านคน


สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ไทยช่วยไทย:โอกาสจากวิกฤติ COVID-19” โดยมี 8 กลุ่มธุรกิจเข้าร่วม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อความอยู่รอด การกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการสื่อสารที่ชัดเจน ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท กลุ่มธุรกิจค้าปลีก, กลุ่มธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่ม/ภัตตาคาร, กลุ่มธุรกิจ Entertainment and Man Made เช่น สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม, กลุ่มธุรกิจการเดินทาง, กลุ่มุธุรกิจบริการทัวร์ และกลุ่มธุรกิจ Health and Wellness และกลุ่มธุรกิจสื่อสารและประชาสัมพันธ์

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อรับทราบผลกระทบและหาแนวทางช่วยเหลือ เช่น บริษัทขนาดใหญ่จะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามที่รัฐบาลออกมาตรการพี่ช่วยน้อง ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่สามารถนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบคคลได้ถึง 2 เท่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอยากจะเห็นเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ไป และจากการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจะออกมาตรการหลาย อย่างช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น มาตรการทางการเงินที่จะให้ธนาคารรัฐส่งต่อให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  คาดว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (10 มี.ค.) จะอนุมัติมาตรการนี้ในรูปของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 2 ต่อปี โดยมีเป้าหมายไม่ให้ผู้ประกอบการเลิกจ้างงาน และในการประชุมครั้งนี้ยังมีกลุ่มธนาคารพาณิชย์เข้าร่วม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลด้านสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วย  และต้องการทราบนโยบายภาครัฐ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เช่น บางกระทรวงให้ข้าราชการออกไปประชุมสัมมนาต่างจังหวัด ขณะที่บางกระทรวงระบุว่าไม่ได้ ซึ่งต้องการให้มีความชัดเจนเรื่องนี้ นอกจากนี้ จะต้องหามาตรการสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวให้มีความมั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำหรับผลสรุปจากการประชุมเชิงปฏิบัติครั้งนี้จะส่งมอบให้รัฐบาลพิจารณาจัดมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไปด้วย  


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ททท.จับตาตั้งแต่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนประกาศห้ามคนจีนออกเดินทางนอกประเทศ โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2563 พบว่า นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลงมากกว่าร้อยละ 23 และยังมีแนวโน้มลดลงอีก คาดการณ์กรณีดีมีความเป็นไปได้ร้อยละ 70 สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถควบคุมได้และน่าจะสิ้นสุดประมาณเดือนมีนาคม 2563 และเดือนเมษายน 2563 จะเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวต่ำสุด ก่อนจะปรับตัวขึ้นอีก 2 เดือน คือ พฤษภาคม-มิถุนายน 2563 และตัวเลขกลับมาเป็นบวกเดือนกรกฎาคม 2563  กรณีนี้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมตลอดปี 2563 จะมียอดรวม 34.2 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ที่มียอดรวม 39.8 ล้านคน  

ส่วนกรณีเลวร้าย มีความเป็นไปได้ร้อยละ 30 สถานการณ์ต่อเนื่องจนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 และเป็นจุดต่ำสุด คาดว่าการฟื้นตัวต้องใช้เวลามากกว่าเดิม โดยการท่องเที่ยวจะสามารถฟื้นตัวใช้เวลาอีก 3 เดือนคือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2563 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเดือนกันยายน 2563 กรณีนี้ เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติภาพรวมจะลดลงเหลือประมาณ 30 ล้านคน  ใช้จ่ายคนละประมาณ 50,000 บาท รายได้จะอยู่ในระดับ 1.5-1.6 ล้านล้านบาท  โดยนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังคงเดินทางเข้ามาในไทยโดยรัสเซียเข้ามาเพิ่มขึ้น คาดหวังว่าบางกลุ่มอยากมาประเทศไทยแต่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยนักท่องเที่ยวหนาแน่นก็จะใช้โอกาสนี้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังมีนักท่องเทียวจากอาเซียน ปีที่แล้วรวมเกือบ 8 ล้านคน และยังมีนักท่องเที่ยวจากทางเอเชียใต้ด้วย  


“สิ่งสำคัญที่สุด คือ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวแล้วรู้สึกปลอดภัย ขณะนี้จีนอนุญาตให้เที่ยวภายในมลฑลจากนั้นขยายท่องเที่ยวระหว่างมลฑล จากนั้นจะทำรายชื่อประเทศที่แนะนำให้เดินทางและไม่แนะนำให้เดินทาง ซึ่งประเทศไทยจะต้องสร้างความมั่นใจว่าเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยปลอดภัย มีมาตรฐานที่ดี” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ส่วนเป้าหมายคนไทยเที่ยวกันเองภายในประเทศยังยืนยันตัวเลขเดิม คือ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 167 ล้านคนครั้ง เป็น 172 ล้านคนครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปี 2562 รายได้จะเพิ่มจากปีที่ผ่านมาอีก 100,000-200,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ไทยเที่ยวไทย 1.1 ล้านล้านบาท โดยคนไทยปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวในระยะทางใกล้ ๆ ไม่เกิน 300 กิโลเมตร เดินทางโดยรถตู้ เช่น พัทยา กาญจนบุรี หัวหิน และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ซึ่งพื้นที่เหล่านี้อัตราการเข้าพักของโรงแรมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ 

“ตอนนี้รัฐบาลมอง 2 เรื่อง คือ ทำอย่างไรประเทศไทยจะปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ทำอย่างไรเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ปกติยังมีผู้ประกอบการทำธุรกิจต่อไปได้ จึงเน้นพยุงให้สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งช่วยด้านการพัฒนา ลดภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว 

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ผลที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ไทยช่วยไทย:โอกาสจากวิกฤติ COVID-19” วันนี้ทางหอการค้าแห่งประเทศไทยจะมอบให้รัฐบาลเพื่อนำไปดำเนินการ 3 เรื่อง คือ มาตรการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ในประเทศไทย เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวยังเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณร้อยละ 50 หากไวรัสยังคงแพร่ระบาดนักท่องเที่ยวจะหายไปอีก รัฐบาลจึงทำทุกวิถีทางเตรียมการป้องกันให้ได้  เรื่องที่ 2 คือ หามาตรการให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดได้ผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้งยืดหนี้ การลดรายจ่าย การดูแลมัคคุเทศก์ เป็นต้น เพราะเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะกลับมาทำธุรกิจได้เป้าหมายที่ 3 คือ ในช่วง 3-4 เดือนนี้ เตรียมการเพื่ออนาคต โดยรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการ Ease of Travelling เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่อไป  

“สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมเกือบ 100,000 คน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 4,000 คน   และได้แพร่ระบบออกไปอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ อิหร่านและอิตาลี ผู้ป่วยแต่ละประเทศเข้าใกล้ 10,000 คน ผลกระทบต่อประเทศไทย คือ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงประมาณร้อยละ 45 จึงหารือกับภาคเอกชน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป” นายกอบศักดิ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด […]

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]