เร่งพิสูจน์ศพชายในซอยวิภาวดี 42 เพื่อคลายความกังวลหวั่นโรคโควิด-19

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- เร่งผ่าพิสูจน์ศพชายภายในซอยวิภาวดี 42 เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวลใช่ “โควิด-19”หรือไม่ เบื้องต้นเชื่อเสียชีวิตจากโรคประจำตัวหลายโรค


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว “พบชายนอนตายปริศนา ข้างกระเป๋าเดินทาง ยืนยันแล้วมาจากเชียงใหม่“ ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน ว่าได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ว่า วันที่ 6 มี.ค. 63 เวลาประมาณ 06.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพชาย นอนหน้าบ้านเลขที่ 62/150 ภายในซอยวิภาวดี 42 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพ ฯ ข้างศพมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ภายในกระเป๋าพบถุงยาจำนวนมาก พนักงานสอบสวน จึงร่วมกับ แพทย์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ 

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายปริญญา เฮงเจริญ อายุ 44 ปี เป็นคนเชียงใหม่ มีประวัติการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสันทราย โดยผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคความดัน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งได้เดินทางมาหาญาติใน กทม. พนักงานสอบสวนจึงส่งร่างผู้เสียชีวิตไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจพิสูจน์โดยละเอียดต่อไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด


รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจในการเสียชีวิต เนื่องจากทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหลายโรคและติดสุรา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์โดยละเอียดจากแพทย์นิติเวช ประกอบสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศแต่อย่างใด ส่วนในประเด็นที่สื่อตั้งข้อสงสัยว่าเสียชีวิตเพราะเป็นโรคโควิด-19 หรือไม่นั้น ในประเด็นดังกล่าวขอให้รอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ เพื่อทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าพึ่งตื่นตระหนก ขอให้รอฟังผลจากแพทย์ ทั้งนี้ โปรดรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันความสับสนและสร้างความตื่นตระหนกแก่สังคม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว