ปิดโรงเรียน กทม.วันนี้ค่าฝุ่นยังเกิน 38พื้นที่

กทม.26 ก.พ.-ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม.วันนี้ เกินค่ามาตรฐาน 38 เขต แต่แนวโน้มลดลง แนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เฝ้าระวังสุขภาพ และเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง




ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร  ประจำวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 42 -81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 38 พื้นที่ แต่มีแนวโน้มลดลง คือ 

1.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.

2.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง: มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.


3.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 81 มคก./ลบ.ม.

4.เขตปทุมวัน บริเวณหน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.

5.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 70 มคก./ลบ.ม.

6.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.

7.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.

8.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ60 มคก./ลบ.ม.

9.เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 78  มคก./ลบ.ม.

10.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 75 มคก./ลบ.ม.

11.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.

12.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.

13.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.

14.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 70 มคก./ลบ.ม.

15.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.

16.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.

17.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.

18.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 70 มคก./ลบ.ม.

19.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.

20.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 77 มคก./ลบ.ม.

21.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 79 มคก./ลบ.ม.

22.เขตสวนหลวง ริมถนนพัฒนาการ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.

23.เขตลาดพร้าว ริมถนนนาคนิวาส : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.

24.เขตคลองสามวา ริมถนนเลียบคลองสอง : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.

25.เขตสายไหม ริมถนนสุขาภิบาล 5 : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.

26.เขตห้วยขวาง ริมถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

27.เขตสะพานสูง ริมถนนรามคำแหง : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.

28.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ริมถนนหลานหลวง : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

29.เขตดอนเมือง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.

30.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

31.เขตราษฎร์บูรณะ ริมถนนราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.

32.เขตบางกอกใหญ่ ริมถนนเพชรเกษม สี่แยกท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.

33.เขตตลิ่งชัน ริมถนนพุทธมณฑลสาย 1  : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.

34.เขตทวีวัฒนา ริมถนนทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.

35.เขตดุสิต ริมถนนสุโขทัย : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.

36.เขตหนองแขม ริมถนนเพชรเกษม : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.

37.เขตบางบอน ริมถนนเอกชัย : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

38.เขตทุ่งครุ ริมถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม. 

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร : มีเมฆบางส่วน

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และคุณภาพอากาศปานกลาง ซึ่งในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตาม ปกติ ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง 

ส่วนพื้นที่ที่คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งเตือนและเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ www.bangkokairquality.com 

www.airqangkok.com  Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม www.prbangkok.com 

Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. หรือแอปพลิเคชั่น “กทม. Connect” .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ

สระแก้ว 12 มิ.ย. – ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบด้วยกระสุนจริง พร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยกองกำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.ร.12) กองพันที่ 2 ได้ทำการจัดการฝึกยิงอาวุธประจำกายของกำลังพล ด้วยกระสุนจริง บริเวณพื้นที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อยกระดับความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายของแต่ละบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ และการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการเพิ่มทักษะและความแม่นยำในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประจำอยู่กับแต่ละกำลังพล หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีทุกเวลาเพื่อความสงบสุขของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เรียกถกด่วน หลังพบการรุกป่าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

บ้านพิษณุโลก 12 มิ.ย.- นายกฯ เรียกปลัด ทส.-เสนาธิการทหารบก ประชุมด่วน หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาค 2 รายงานพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน-อุทยานฯ เป็นปัญหาตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดน เร่งเพิ่มเส้นทางตรวจการณ์อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ภายหลังเรียกประชุมด่วนเมื่อช่วงเช้า กับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก และหัวหน้าเขตอุทยาน 5 เขตแนวชายแดน ว่า เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ดิฉันและคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านแม่ทัพภาคที่2 ได้รายงานอีกเรื่องที่สำคัญค่ะ คือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยาน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่ตามแนวชายแดน และไม่มีเส้นทางทำให้การปฏิบัติงานเป็นได้ด้วยความยากลำบากและล่าช้า วันนี้ดิฉันจึงขอประชุมด่วน โดยมีท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หัวหน้าเขตอุทยานทั้ง 5 เขตแนวชายแดน และเสนาธิการทหารบกร่วมพูดคุยกัน แผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การเพิ่มเส้นทางในการตรวจการณ์พื้นที่อุทยาน การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายแดนให้อยู่ในสภาพดี เพียงพอสำหรับการอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงแผนเร่งพัฒนาระบบการสื่อสารและไฟฟ้าให้มีความเสถียร เพื่อให้การประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น การปฏิบัติงานตามแนวชายแดนมีหลายสิ่งที่ต้องเร่งจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อม […]

หนุ่มออสเตรียชักเกร็งหมดสติ หามส่ง รพ. เจอยาบ้าเต็มท้อง

กทม. 12 มิ.ย. – หนุ่มออสเตรีย ปวดท้อง ถูกส่งตัวจากสนามบินดอนเมืองไปโรงพยาบาลรักษาตัว ขณะรักษาเจอยาบ้า 255 เม็ด หลุดออกมาจากลำไส้ คาดกลืนยาเสพติดเข้าไปแล้วถุงยาแตก ทำให้ปวดท้องหนัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจหัวหมากได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง ว่าได้รับตัวชายชาวต่างชาติมาจากสนามบินดอนเมือง เนื่องจากชายคนดังกล่าวมีอาการชักเกร็ง เมื่อถึงโรงพยาบาลประเมินอาการก่อนการรักษา แพทย์พบมีน้ำสีชมพูออกมาทางทวารของผู้ป่วย จึงทำการ CT SCAN พบวัตถุก้อนกลมๆ จำนวนหนึ่ง อยู่ภายในท้อง และวัตถุดังกล่าวจำนวน 1 ก้อน ได้หลุดออกมาจากทวาร มีลักษณะคล้ายห่อสิ่งเสพติด แพทย์จึงแจ้งตำรวจตรวจสอบ ผลปรากฏว่า ห่อดังกล่าวบรรจุยาบ้าชนิดกลม-แบน สีแดง มีตัวอักษร WY ปั๊มอยู่ เมื่อนับจำนวนพบมีทั้งหมด 255 เม็ด ไม่นับรวมที่เหลืออยู่ในท้องของผู้ป่วยซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ส่วนผู้ป่วย ตรวจสอบแล้ว ชื่อว่า นายกานท์เนอร์ อายุ 43 ปี สัญชาติออสเตรีย ขณะทำการตรวจยึดผู้ป่วยไม่ได้สติ รอการผ่าตัด ทำให้คาดว่าผู้ป่วยกลืนถุงยาบ้า […]

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]