กกพ.คาดตรึงค่าไฟฟ้าได้ถึงสิ้นปี

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – กกพ.คาดตรึงค่าไฟฟ้าเอฟทีได้ถึงสิ้นปี เหตุต้นทุนพลังงานยังไม่ปรับขึ้น เงินบาทแข็งค่า และยังมีเงินส่วนได้จาก 3 การไฟฟ้าร่วม 1,000 ล้านบาทที่ใช้ดูแลค่าไฟฟ้าได้


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยแนวทางดูแลอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศในปี 2563 เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อค่าครองชีพของภาคประชาชน ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่า กกพ.อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเป็นหลัก โดยขณะนี้มีทั้งปัจจัยบวก เช่น ราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าถึง 60% ของค่าเชื้อเพลิงทั้งหมด ยังมีราคาไม่สูงมากนักตามทิศทางราคาน้ำมัน ประกอบกับ เงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ค่าเชื้อเพลิงถูกลง ขณะที่ปัจจัยลบยังมีความเสี่ยงจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้า โดยต้องติดตามดูสถานการณ์ภัยแล้งว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในเขื่อนอย่างไร เพราะหากน้ำน้อยไม่สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ก็จะส่งผลให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น เนื่องจากน้ำมีต้นทุนต่ำสุด แต่ยืนยันว่าปัญหาภัยแล้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศแน่นอน

อย่างไรก็ตาม กกพ.มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสามารถดูแลอัตราค่าไฟฟ้าอีก 2 งวดที่เหลือของปีนี้ คือ งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2563 และงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ให้คงอัตราไว้ในระดับเดียวกับงวดแรกของปีนี้เดือนมกราคม-เมษายน 2563 เนื่องจากยังมีวงเงินส่วนได้จาก 3 การไฟฟ้า เหลืออยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่จะนำมาดูแลค่าไฟฟ้าให้กับภาคประชาชนได้ 


สำหรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2563 ติดลบอยู่ที่ 11.60 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าที่ประชาชนจ่ายอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.7556 บาทต่อหน่วย 

ส่วนความคืบหน้าการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าฐานนั้น กกพ.อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด คาดเปิดรับฟังความคิดเห็นได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ และประกาศใช้โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป โดยจะคำนึงถึงพฤติกรรมผู้ใช้ไฟฟ้าปัจจุบันเปลี่ยนไปและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทำให้แนวโน้มอนาคตจะมีผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองที่เพิ่มมากขึ้น แต่หากยังต้องเข้ามาพึ่งพาระบบไฟฟ้าหลัก ก็อาจจะต้องคิดค่าบริการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าหลัก ซึ่งส่วนนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าฐาน

นอกจากนี้ กกพ.เตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดือนมีนาคมนี้ พิจารณาแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการไฟฟ้าเสรีตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เพื่อขอความเห็นชอบยกเว้นนโยบาย Enhanced Single Buyer ที่กำหนดให้ กฟผ.เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียวในเดือนเมษายนนี้ โดยให้ดำเนินภายใต้โครงการ ERC Sandbox ทดสอบระบบการซื้อขายไฟฟ้าเสมือนจริง เพื่อติดตามดูพฤติกรรมของผู้บริโภคและประสิทธิภาพของระบบว่าจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร 


เบื้องต้นโครงการ ERC Sandbox จะแบ่งกลุ่มศึกษา โดยกลุ่มแรกจะเป็นลักษณะที่ไม่มีผลกระทบต่อระบบโดยรวม และกลุ่มที่ 2 จะเป็นการซื้อขายไฟฟ้าจริง peer to peer หรือการซื้อขายไฟฟ้ากันเองระหว่างประชาชนกับประชาชนโดยไม่ผ่านระบบจำหน่าย ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องปลดล็อคนโยบาย Enhanced Single Buyer ก่อน เพื่อดูพฤติกรรมของผู้ซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันว่าจะมีผลกระทบค่าไฟฟ้า และภาพรวมระบบอย่างไร รวมถึงการกำหนดอัตราจัดเก็บค่าบริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงานของประชาชนต่อประชาชนที่ต้องการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าหลักด้วย 

นอกจากนี้ ยังจะเสนอ กพช.พิจารณาแนวทางส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย โดยจะร่วมมือกับหน่วยภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และสมาคมยานยนต์ฯ จัดทำลักษณะพื้นที่ Sandbox เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคและตลาดรถยนต์ EV ซึ่งจะเสนอ กพช.เห็นชอบอัตราค่าบริการชาร์จไฟฟ้าใหม่ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น 

“ตอนนี้บอร์ด กกพ.กำลังดูว่าจะกำหนดอัตราใหม่อย่างไร จะกำหนดเป็นพื้นที่ โดยดูตามพฤติกรรมการใช้ เช่น พื้นที่ไหนมีผู้ใช้บริการชาร์จไฟฟ้ามาก อัตราก็จะเก็บแพงกว่าพื้นที่ที่มีการใช้บริการน้อย หรือจะเป็นกำหนดอัตราตามช่วงเวลาแต่ละวัน ซึ่งภายใต้ Sandbox จะใช้เวลาทดลอง 1-2 ปี“ นายคมกฤช กล่าว

ส่วนอัตราค่าบริการชาร์จไฟฟ้าทั่วไปสำหรับพื้นที่ของเอกชนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ Sandbox จะยังคงเป็นไปตามอัตราชั่วคราวที่ประกาศใช้อยู่ในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย