กรุงเทพฯ 16 ก.ค.-กกพ.ตามติดสถานการณ์เศรษฐกิจ ประกาศลดค่าเอฟทีลงตามภาวะราคาเชื้อเพลิง มองเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนจนถึงสิ้นปี
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ.มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ลงอีก 0.83 สตางค์ต่อหน่วย หรือเรียกเก็บค่าเอฟที -12.43 สตางค์ต่อหน่วย สะท้อนต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่แท้จริง ซึ่งลดลงจากเดิมเรียกเก็บที่ -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.63 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
“แม้ราคาเชื้อเพลิงจะลดลง เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 และทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลงก็ตาม แต่ กกพ. ยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ซึ่งยังคงเป็นแรงกดดันให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นได้” นายคมกฤช กล่าว
สำหรับสาเหตุหลักของการปรับลดค่าเอฟทีงวดนี้ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงก่อนหน้านี้ และมีผลในงวดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม กกพ.ยังคงต้องประเมินปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลในทางลบ และเป็นภาระต่อการประมาณการค่าเอฟทีในงวดถัดไปด้วย
ส่วนปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟทีงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ประกอบด้วย 1.ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 เท่ากับประมาณ 58,910 ล้านหน่วย ปรับลดลงจากช่วงเดือนเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2563 คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 69,920 ล้านหน่วย หรือลดลงร้อยละ -15.75 ขณะที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้ารวมปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 193,706 ล้านหน่วย ลดลงร้อยละ -1.62 จากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 196,896 ล้านหน่วย 2.สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักร้อยละ 51.13 ถ่านหิน ร้อยละ 17.97 และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ร้อยละ 20.15 อื่น ๆ ร้อยละ 10.75
3. สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยรวมราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยแต่ละประเภทลดลงจากงวดที่ผ่านมา ตามการปรับลดลงของภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง 4.อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ (1 – 31 พ.ค.63) เท่ากับ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากประมาณการในงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2563 ที่ประมาณการไว้ที่ 31.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ.จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บเดือนกันยายน – ธันวาคม 2563 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 17 – 23 กรกฎาคม 2563 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป.-สำนักข่าวไทย