fbpx

บี.กริม ไม่พลิกล็อกคว้าใบอนุญาตนำเข้าแอลเอ็นจี รายที่ 5

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – กกพ.อนุมัติให้ บี.กริม ได้ใบอนุญาตนำเข้าแอลเอ็นจี รายที่ 5 ของประเทศ ประมาณ 6.5 แสนตัน/ปี ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่าแผน แม้เศรษฐกิจจะติดลบจากโควิด-19


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ.วันนี้ (27 พ.ค.) เห็นชอบให้บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper ) เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ปริมาณ 650,000 ตัน/ปี เริ่มปี 2565  รวมแล้วประเทศไทยมีผู้ได้รับใบอนุญาตทั้งหมด 5 ราย จากเดิมประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด  ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้นโยบายส่งเสริมการแข่งขันการนำเข้าเสรี ภายใต้การส่งเสริมบุคคลที่ 3 นำเข้าหรือ Third Party Access (TPA Codes) ทั้งระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและคลังเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง

 ทั้งนี้ ผู้ได้รับใบอนุญาตรายใหม่จะสามารถดำเนินการประสานงานติดต่อคลังเก็บก๊าซธรรมชาติ (LNG Receiving Terminal) และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อศึกษาความสามารถของระบบก๊าซธรรมชาติ การจองการใช้งานระบบส่งก๊าซธรรมชาติ และเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ ในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)  ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในการขอรับใบอนุญาต


“ปัจจุบันราคาแอลเอ็นจีตลาดโลกอยู่ในระดับที่ต่ำและจะเป็นโอกาสที่ผู้ได้รับใบอนุญาตที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวในการเตรียมความพร้อมและติดต่อประสานงานผู้ผลิตเพื่อนำเข้าแอลเอ็นจี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อค่าไฟฟ้า” นายคมกฤช  กล่าว

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM)  กล่าวว่า บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ จึงได้รับใบอนุญาตนำเข้าจาก กกพ. ซึ่งจะนำมาใช้กับโรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทน (replacement SPP )ทั้ง 5 โรง

สำหรับการดำเนินการของบริษัทปีนี้ บริษัทคาดน่าจะมีรายได้และกำไรปีนี้ทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือเติบโตได้เล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 44,000 ล้านบาท แม้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมบางโรงงานชะลอการผลิตในช่วงเดือนเมษายน 2563 แต่มองว่าสถานการณ์น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากเริ่มเห็นการกลับมาผลิตของลูกค้าได้ตามปกติแล้วในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ 


ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังทยอยจ่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าใหม่เข้ามาอีกในช่วงที่เหลือของปีรวม 30 เมกะวัตต์ (MW) ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ได้มีการจ่ายไฟฟ้าไปแล้ว 14 เมกะวัตต์ และจะทยอยจ่ายไฟฟ้าอีก 16 เมกะวัตต์ในครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามาเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 677 เมกะวัตต์ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุน 5 ปี (63-67) ไว้ที่ 70,000-75,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนพัฒนาโครงการในมือ และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) 

โดยหลักยังคงมองโอกาสเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเกาหลีใต้ กำลังการผลิตประมาณ 200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ รวมถึงยังมองโอกาสของโรงไฟฟ้าพลังงานลม ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในประเทศเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-ก๊าซธรรมชาติ และ Transmission and Distribution System (T&D) ในประเทศกัมพูชา ส่วนในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบัน BGRIM ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และก๊าซธรรมชาติ

นอกจากนี้ ในประเทศไทย บริษัทก็อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 2-3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันอยู่ในกระบวนการทำ Due diligence คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้