เชียงใหม่ 6 ก.พ.- คณะแพทยศาสตร์ มช. แถลงผู้ป่วยชาวจีนเข้ารักษาเมื่อ 21 ม.ค. อาการปกติแล้ว รอผลยืนยันการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อีกครั้งจากกระทรวงสาธารณสุข ก่อนอนุญาตให้กลับได้ ส่วนมาตรการตรวจคัดกรองเข้มยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.นพ. ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการและผู้บริหารศูนย์ศรีพัฒน์ รศ.พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และ นพ.ปรเมษฐ์ วินิจจะกูล หน่วยโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ แถลงความคืบหน้าการรักษาผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนผู้มารับบริการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ดังนี้
1. ผู้ป่วยชาวจีน อายุ 28 ปี เดินทางจากเมืองจิงโจว มณฑลหูเป่ย มาจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563 เข้าตรวจรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช ในวันที่ 21 มกราคม ด้วยอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ผลการตรวจตัวอย่างจากช่องจมูกและคอ ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง และ 2 ครั้งคือ วันที่ 22 และวันที่ 25 โดยภาพรังสีปอดเบื้องต้นเป็นปกติ แต่เนื่องจากวันที่ 27 ผู้ป่วยยังคงมีไข้และมีอาการไอมากขึ้น คณะแพทย์จึงตรวจภาพรังสีทรวงอกซ้ำอีกครั้ง พบว่ามีปอดอักเสบจึงได้ส่องกล้องทางหลอดลมและตรวจพบเชื้อจากน้ำล้างปอด ขณะนี้ผู้ป่วยได้พักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกความดันอากาศเป็นลบ สำหรับผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจ ทางทีมผู้รักษาได้ให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาขับเสมหะ ให้สารน้ำและออกซิเจน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยไข้เริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ปัจจุบันผู้ป่วยรายนี้ไม่มีไข้แล้ว คณะแพทย์ผู้รักษากำลังรอผลการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว จึงจะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล หรือกลับไปใช้ชีวิตปกติ
2. ระหว่างนี้ได้มีมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อในผู้ป่วยรายอื่น ๆ และบุคลากรทางการแพทย์อย่างเข้มข้น จนถึงปัจจุบันยังไม่พบบุคลากรหรือผู้ป่วยรายใดติดเชื้อต่อจากผู้ป่วยรายดังกล่าว และยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ แม้จะมีผู้มีอาการต้องสงสัย 17 ราย ซึ่งรวมกับบุคลากรที่ใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อด้วย 3 ราย แต่ผลไม่พบติดเชื้อใด ๆ
3. การดูแลความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนผู้มารับบริการนั้น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้กำหนดให้จำกัดทางเข้า – ออก โดยทุกทางเข้า-ออกจะมีจุดคัดกรอง ผู้รับบริการรวมถึงบุคลากรทุกท่าน จะต้องผ่านจุด Thermoscan หรือวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หากพบผู้ใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือหายใจหอบเหนื่อย และมีประวัติเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือต่างประเทศ ภายใน14 วัน เจ้าหน้าที่จะแยกเพื่อไปรับการตรวจที่ opd สนามหน้าอาคารนิมมานเหมินทร์-ชุติมา ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมโรค
4. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้มีคำแนะนำให้บุคลากรและบุคคลทั่วไปในการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสต่าง ๆ โดยได้เน้นย้ำเรื่อง การทานอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ และปฎิบัติให้ถูกต้อง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งการแพร่กระจายของเชื้อด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูล คำแนะนำ ข่าวสารและความคืบหน้าทั้งหมด ประชาชนสามารถติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/medicine.cm/.-สำนักข่าวไทย