ชาวจีนโพสต์ขอโทษคนไทย

เชียงใหม่ 3 ก.พ.-ชาวจีน โพสต์ขอโทษคนไทย เป็นต้นเหตุความเดือดร้อน หลังร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ติดป้าย ไม่รับคนจีน หรือ ชาวต่างชาติเข้าร้านอาหาร 


หลังจากที่โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพที่ถ่ายจากหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่หมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน ขึ้นป้ายทั้งภาษาไทย รวมทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ปฏิเสธที่จะรับลูกค้าชาวจีนและชาวต่างชาติ เนื่องจากกลัวการระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ โดยป้ายดังกล่าวเขียนเป็นภาษไทยว่า “ขออภัยไม่รับจีนและลูกค้าต่างชาติ” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว พร้อมเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย


ล่าสุดพบชาวจีนทวิตข้อความขอโทษคนไทย ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น โดยใส่ #งดรับนักท่องเที่ยวจีน #ไวรัสโคโรนา #จีน #อู่ฮั่น ขอโทษนะคะชาวจีนส่วนใหญ่รู้สึกเสียใจมาก ขอโทษประเทศไทย ขอโทษคนไทย เคยมาเที่ยวไทย รู้สึกคนไทยมีน้ำใจ ใจดีและชอบช่วยคนอื่น ขอโทษจริงๆนะคะ เราขอโทษนะคะ ขอให้ปลอดภัยค่ะ ผ่านไปไวรัสโคโรนานี้” และชาวจีนอีกมาก ก็เข้ามาขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุความเดือดร้อนของหลายๆประเทศในครั้งนี้  และขอโทษประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากประเทศจีนเป็นอย่างมาก 


ซึ่งมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทยจำนวนมาก เข้ามาให้กำลังใจชาวจีน และเข้าใจในสถานการณ์ ขอให้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ต่อมาเจ้าของร้านออกมายอมรับว่า ขึ้นป้ายดังกล่าวจริง เนื่องจากเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมาได้มีลูกค้าคนไทยมาสั่งอาหารรับประทานอยู่ในร้าน จากนั้นมีคนจีนกลุ่มหนึ่งเข้ามาสั่งอาหารในร้าน ทำให้ลูกค้าคนไทยเดินออกจากร้านกันหมด เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะพูดและเขียนภาษาจีนไม่ได้ จึงตัดสินใจหาทางออกด้วยการไปค้นหาข้อมูลภาษาจีนและนำมาเขียนป้ายกระดาษ  พร้อมเขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษนำไปติดที่หน้าร้าน ซึ่งต่อมามีไกด์ภาษาจีนมาแนะนำว่าภาษาที่ใช้ไม่สุภาพและเขียนให้ใหม่ อย่างไรก็ตาม มีผู้ถ่ายภาพป้ายและนำไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียแล้ว ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและอำเภอแม่ออน มาตักเตือนแนะนำว่า การเขียนป้ายดังกล่าว กระทบความสัมพันธ์และความมั่นคงของชาติ แล้วให้เปลี่ยนป้ายใหม่เขียนเป็นภาษาจีนว่า “อาหารหมด” ติดที่หน้าร้านแทน

 ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกอึกอัดใจอย่างมาก เพราะไม่ได้ต้องการจะปฏิเสธการรับลูกค้า แต่ที่เขียนป้ายดังกล่าวยอมรับว่าเป็นเพราะมีความห่วงกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ไม่มั่นใจว่าจะมีลูกค้ารายใดติดเชื้อมาด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะคนจีน ที่ตัวเองไม่สามารถสื่อสารทั้งการพูดคุยหรือเขียนได้ จึงจำเป็นต้องเขียนป้ายดังกล่าวเพราะเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ในการที่จะปกป้องตัวเอง และพนักงานในร้าน ซึ่งขออภัยหากทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง