พระนครศรีอยุธยา 31 ม.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ห่วงคุณภาพน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ลงพื้นที่อยุธยาติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาค่าความเค็มอย่างเป็นระบบ หลังมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการบริหารจัดการ
เมื่อเวลา 10.00 น. (31 ม.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามผลการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ณ ที่ว่าการอำเภอลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่ได้มอบหมายให้กรมชลประทานและการประปานครหลวง (กปน.) โดยมีนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อธิบดีกรมชลประทาน ผู้ว่าการประปานครหลวง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูล
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ไปตรวจเยี่ยมจุดปฏิบัติการผลักดันน้ำในคลองพระยาบรรลือ และจุดปฏิบัติงานขุดลอกสันดอนคลองพระยาบรรลือ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยปัญหาน้ำเค็มรุกแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะหากน้ำในแม่น้ำมีค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐานก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำที่ประชาชนใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค อุตสาหกรรม และการผลิตน้ำประปาอีก วันนี้จึงได้เดินทางลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ได้สั่งการให้กรมชลประทานร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) เพิ่มการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง สนับสนุนการผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์ และวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำด้านอุปโภค บริโภค ที่สำคัญขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ภายใต้การขับเคลื่อนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า นอกจากจะมีการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักตอนบนแล้ว ยังผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่น้ำแม่กลองมาช่วยเหลือในพื้นที่ของแม่น้ำเจ้าพระยา 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. คลองท่าสาร-บางปลา 2. คลองจรเข้สามพัน ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน เข้าสู่คลองพระยาบรรลือ คลองพระพิมล โดยกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำ จำนวน 102 เครื่อง เพื่อเร่งผันน้ำให้ไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา 3. คลองประปา เข้าคลองบางกอกน้อย และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มาตรการในการผันน้ำนี้จะดำเนินการร่วมกับมาตรการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างด้วยการบริหารจัดการอาคารชลประทานให้สัมพันธ์กับช่วยเวลาน้ำขึ้นน้ำลง โดยหน่วงน้ำในพื้นที่ด้านบนบริเวณหน้าเขื่อนทดน้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทด้วยการบริหารปิด/เปิดบานระบายให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาน้ำขึ้น–น้ำลง สอดคล้องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ด้านท้ายแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ฯจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะปิดประตูระบายน้ำในช่วงเวลาน้ำขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำเค็มรุกเข้ามาในแม่น้ำและจะเปิดบานระบายน้ำในช่วงเวลาน้ำลงเพื่อเร่งระบายน้ำหรือการกระแทกน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไล่น้ำเค็มออกสู่ทะเลโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย