นายกฯ ร่วมงานสภานักเรียน หนุนเยาวชนต่อต้านเฟคนิวส์

กรุงเทพฯ 29 ม.ค.-นายกฯ ร่วมงานสภานักเรียนทั่วประเทศ สนับสนุนเจตนารมณ์ 4 ข้อของสภานักเรียน เลิกใช้ถุงพลาสติก ส่งเสริมจิตอาสา รู้ทันข่าวปลอม ป้องกันการ bully ย้ำเฟคนิวส์อันตราย ทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ชวนเยาวชนร่วมปกป้องชาติ ศาสนา พระมหาษัตริย์ 


ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาร่วมกิจกรรม เซอร์ไพร์ สภานักเรียนทั่วประเทศ เนื่องในวันสภานักเรียน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมประกาศเจตนารมย์ ตามข้อคิดเห็นของสภานักเรียน โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมตัวแทนสภานักเรียนทั่วประเทศ เข้าร่วม 

น.ส.มินทกานต์ ถนอมไถ ประธานสภานักเรียน จากโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย นำประกาศเจตนารมย์  4 ข้อ ของสภานักเรียน คือ การส่งเสริมให้นักเรียนเลิกใช้ถุงพลาสติก  การส่งเสริมจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมแห่งความสุข การส่งเสริมให้เด็กไทยรู้ทันก่อนแบ่งปันข่าวปลอม(Fake News) และการส่งเสริมแนวทางป้องกันจากการถูกข่มเหง (Bully) 


นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอจากสภานักเรียน พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า รู้สึกเป็นเด็กอีกครั้ง เมื่ออยู่ท่ามกลางเด็ก ๆ และรู้สึกประทับใจที่เห็นพัฒนาการทำงานของเยาวชนของชาติ ถือเป็นการรวมพลังของคนรุ่นใหม่ที่สร้างชาติ และมีความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่เป็นข้อเสนอของสภานักเรียนตรงกับแนวทางของรัฐบาล ดังนั้นจึงเต็มใจและพร้อมรับนำไปปฎิบัติทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการลดการใช้ขยะพลาสติกเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามสร้างการรับรู้มาโดยตลอดจนทุกคนยอมรับ ด้วยการเริ่มจากจุดเล็ก ๆ  ขณะที่การเป็นจิตอาสา ต้องเริ่มจากความถนัดและความชอบของตนเองทำอย่างเข้าใจ และต่อเนื่อง จะทำให้เกิดพลังการมีส่วนร่วม 

“สำหรับการต่อต้านเฟคนิวส์ ตรงกับใจผมมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่แพร่หลายในสังคม สิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิต้านทาน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ ให้เข้าใจข้อเท็จจริง เพราะเฟคนิวส์มีการจัดทำเป็นกระบวนการมีขั้นตอน มีเจตนา สร้างข่าวบิดเบือนเพื่อให้คนคล้อยตาม ไม่ได้เกิดจากการทำขึ้นด้วยความเข้าใจผิด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องอันตราย ทำให้สังคมไม่มีความสุข ทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย และเชื่อว่านักเรียนหลายคนได้เห็นนายกฯ ผ่านทางเฟคนิวส์ เพราะถูกเป็นเป้าโจมตีมากที่สุด ดังนั้นในวันนี้ยืนยันความรู้สึกว่าไม่ได้เป็นคนโมโห แต่ใจดี ไม่เหมือนที่มีการนำเสนอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แม้เด็กทุกคนจะมีหน้าที่ทำเพื่อสังคม แต่อย่าลืม ความสุขในวัยของตนเอง อย่าเครียดมากหนัก เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้ก็เพื่ออนาคตของทุกคน เพราะผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เยาวชนคือทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญของประเทศ ๆ จะดีไม่ได้ถ้าคนไม่มีคุณภาพ ปัญหาสิ่งแวดล้อมยังแก้ได้ด้วยคน ปัญหาของคนต้องแก้ด้วยความคิด การทำให้คนมีคุณภาพ สิ่งที่สำคัญ เราต้องช่วยกันดูแลชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ หากแตกแยกประเทศชาติจะไปไหนไม่ได้ 


จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประกาศเจตนารมย์ 4 ข้อพร้อมสภานักเรียน และร่วมร้องเพลง สภานักเรียน  อย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะแสดงท่าหยุดเฟคนิวส์ เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ หยุดข่าวบิดเบือน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท