กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – ราคาน้ำมันดิบร่วง 5 วันรวด หวั่นโคโรนาไวรัส “ซัสโก้” บริหารสตอกไม่ให้ขาดทุนจับตาผลกระทบ เดินหน้าลงทุนขยาย 20 ปั๊มปีนี้ ปรับหัวจ่ายตามนโยบายรัฐดูดีมานด์ลูกค้าในพื้นที่
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซัสโก้ หรือ SUSCO กล่าวว่า บริษัทระวังการบริหารสตอกน้ำมัน หลังจากช่วงปีนี้ผันผวนสูงขึ้นจากปัญหาตะวันออกกกลาง แต่ล่าสุดราคาน้ำมันดิบร่วงติดต่อกัน 5 วันทำการและราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) จากการหวั่นผลกระทบการระบาดของโคโรนาไวรัส ซึ่งทางบริษัทกำลังติดตามสถานการณ์ว่าจะส่งผลต่อยอดขายน้ำมันเพียงใด เมื่อนักท่องเที่ยวของประเทศไทยลดลง โดยยอดขายของบริษัทตั้งเป้าจะขยายตัวจากปีที่แล้วร้อยละ 8 และวางแผนลงทุนปีนี้ 500 ล้านบาท ขยายปั๊มน้ำมันอีก 20 แห่ง จากสิ้นปี 2562 มีประมาณ 240 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่กระทรวงพลังงานเริ่มประกาศยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันบางชนิด โดยยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ไตรมาส 3 ปีนี้ เพราะไทยมีน้ำมันมากชนิดเกินไปเป็นภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยบริษัทกำลังพิจารณาว่าจะปรับการจำหน่ายน้ำมันแต่ละประเภทอย่างไร ซึ่งต้องดูถึงความต้องการน้ำมันแต่ละพื้นที่ โดยในส่วนของกลุ่มดีเซลทุกปั๊มต้องขายบี 10 นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 แต่รัฐบาลยังไม่ยกเลิกขายบี 7 ที่มียอดรถใช้ได้ 40% ส่วนบี 7 มีรถใช้ได้ 60% และปั๊มก็ยังจำหน่ายบี 20 ด้วย ซึ่งมีราคาถูกกว่าบี 10 อัตรา 1 บาทต่อลิตร โดยบี 10ราคาถูกกว่าบี 7 อัตรา 2 บาทต่อลิตร
ส่วนกลุ่มเบนซิน ซัสโก้ยังยืนยันจะขายเบนซิน 95 ต่อไป ส่วนอี 85 นั้น มีขาย 10 แห่ง แต่ยอดขายไม่ดีนัก ผู้ใช้นิยมเติมอี20 มากกว่า ส่วนแก๊สโซฮอลล์ 95 นั้น ขณะนี้ยอดขายดีกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 เพราะราคาใกล้เคียงกัน ดังนั้น เมื่อยกเลิกขายแก๊สโซฮอลล์ 91แล้ว คงปรับหัวจ่ายไปขายบี 10
“แม้ยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 แต่กลุ่มดีเซลก็มีชนิดน้ำมันมากขึ้น โดยลูกค้าที่เติมบี 20 ได้ก็เติมเหมือนเดิม แม้โปรโมชั่นของภาครัฐจะลดลงถูกกว่าบี 7 อัตรา 5 บาท เหลือ 3 บาทต่อลิตร ซึ่งบริษัทกังวลหากเลิกขายบี 20 บางปั๊มเปลี่ยนมาเป็นบี 10 ยอดขายของกลุ่มที่ใช้บี 20 อาจลดลง และหันไปเติมปั๊มอื่นที่ขายบี 20” นายชัยฤทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก่อนเกิดเหตุการณ์โคโรนาไวรัส ว่า ปี 2563 ความต้องใช้เชื้อเพลิง (ไม่รวม NGV) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากการใช้รวมปี 2562 อยู่ที่ 124.2 ล้านลิตรต่อวัน ภายใต้น้ำมันระดับตลาดโลก 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ ปิดตลาดวานนี้ (27 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมีนาคมร่วงลง 1.05 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 53.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2562 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมีนาคมร่วงลง 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.3% ปิดที่ 59.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2562 จากเหตุนักลงทุนกังวลว่าโคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีนผู้ใช้น้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกและนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก 10.12 ล้านบาร์เรลต่อวันปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย