ทำเนียบฯ 8 ม.ค. – รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเผยเหตุรุนแรงสหรัฐ-อิหร่านต้องติดตามใกล้ชิด เตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจปลายเดือน มกราคม หารือผลกระทบความผันผวนเศรษฐกิจโลก ถกแผนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่นำเขตอีอีซีเป็นต้นแบบ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงสหรัฐ-อิหร่าน จากการโจมตีฐานทัพสหรัฐ ไทยต้องเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบ เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะลุกลามบานปลายเพิ่มมากน้อยเพียงใด หากกระทบวงกว้างคงต้องศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรองรับผลกระทบเพิ่มเติม เมื่อทั่วโลกได้รับผลกระทบย่อมส่งผลถึงไทย ทั้งตลาดหุ้น ราคาสินค้า ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ทุกหน่วยงานจึงต้องเตรียมการรองรับ และหากผลกระทบยาวมากจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทย จึงต้องประเมินว่าต้องหามาตรการดูแลเพิ่มเติมอย่างไร
ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ศึกษามาตรการหลายด้านดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะมาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” ซึ่งได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเอสเอ็มอีได้ เพราะหากได้รับผลกระทบรุนแรงจะมีปัญหา หรือล้มง่าย เมื่อเตรียมการรองรับไว้ด้วยการปลดล็อคได้หลายเรื่องทั้งสภาพคล่อง การปรับโครงสร้างนี้ จะทำให้เอสเอ็มอีรองรับปัญหาเศรษฐกิจโลกผันผวนได้
ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจปลายเดือนมกราคมนี้เตรียมหารือเกี่ยวกับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ต้องเร่งรัดปี 2563 เพื่อเร่งรัดอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ หลังจากเขตอีอีซี ลงนามคัดเลือกผู้สัมปทานหลายโครงการได้ข้อสรุปในไตรมาสแรก ขั้นต่อไปจะเป็นการดึงดดูดนัดกลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตอีอีซี และการสร้างเมืองใหม่ฉะเชิงเทรา สมาร์ทซิตี้ นอกจากนี้ สศช. เตรียมเสนอการเชื่อมโยงพัฒนาเขตเศรษฐกิจ โดยใช้เขตอีอีซีเป็นต้นแบบนำร่องเขต SEC ของภาคใต้ และ NEC ของภาคเหนือ โดยมีคณะกรรมการดูแลชัดเชน เพื่อสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง.-สำนักข่าวไทย