ครม.เศรษฐกิจ เร่งหาแนวทางดันเศรษฐกิจฟื้นตัว

ทำเนียบฯ 27 พ.ค.-ครม.เศรษฐกิจ เร่งหาแนวทางดันเศรษฐกิจฟื้นตัว มุ่งเติมแหล่งทุนให้รายย่อย-เอสเอ็มอี แบงก์ชาติเสนอนำ บสย.ค้ำประกันการกู้ หวังดันจีดีพีโตมากกว่าร้อยละ 2.5


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม ครม.เศรษฐกิจ ประกอบด้วย กระทรวงคลัง เกษตร พลังงาน อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว โดยมี ผู้ว่า ธปท. สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ สศค. บีโอไอ ร่วมประชุมด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำก่อนเริ่มประชุม ว่า ไทยยังเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบการส่งออก กำลังซื้อประชาชนอ่อนแอ หนี้ครัวเรือนสูง ปัญหาหนี้ NPL การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ครม. เศรษฐกิจ จึงต้องหาแนวทาง เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามศักยภาพ สำหรับการกำหนดกรอบเงินเฟ้อ เป็นอิสระของ ธปท. ยอมรับว่า ภาคอุตหสากรรม อยากให้มีเงินเฟ้อเพิ่มเล็กน้อย จะได้ขายสินค้าราคาสูง ส่วนผู้บริโภคอยากซื้อสินค้าราคาถูก ด้วยการให้เงินเฟ้อต่ำ ดังนั้น ดอกเบี้ยนโยบาย จึงต้องหาจุดเหมาะสมกับทุกฝ่าย หลังจากไทยกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อร้อยละ 1-3

นายพิชัญ ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัญหาของเศรษฐกิจไทย ขยายตัวต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเติบโตประมาณร้อยละ 4-6 จึงต้องหาแนวทางให้จีดีพีไทยเติบโตมากกว่าร้อยละ 2.5 ในปีนี้ แม้ศักยภาพควรขยายตัวร้อยละ 3.5 ต้องปรับโครงสร้างทั้งระบบทั้งระยะสั้น กลาง ระยะยาว สำหรับระยะสั้น มุ่งเติมแหล่งทุนให้รายย่อย ผู้ประกอบการ หวังดันกำลังการผลิตอุตสาหกรรมจากร้อยละ 57.2 -64 ให้เพิ่มเป็นร้อยละ 70 ตามศักยภาพ เพื่อให้เกิดการผลิต การจ้างงาน จากนั้นจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ผ่านโครงการ โอนดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ช่วงปลายปี


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการระยะสั้น ในการเติมแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เตรียมเสนอ ครม. นำ บสย. เข้ามาค้ำประกันการกู้ผ่านโครงการ PGS 11 ยอมรับว่า คลังและแบงก์ชาติ เห็นสอดคล้องกันในหลายเรื่อง แบงก์ชาติ จึงเสนอให้นำ บสย. มาค้ำประกันการกู้ เพื่อเติมแหล่งทุนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการกู้เงินรายใหม่

นายจุลพันธ์ อมรวิวิฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตการระยะปานกลาง เตรียมใช้มาตรการภาษีดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ในระยะถัดไป โดยที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจ มอบหมายให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน กลับไปจัดทำแผน ออกมาตรการ เพื่อเสนอ ครม. เศรษฐกิจ 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เช่น กระทรวงการคลัง เตรียมมาตรการภาษี ส่งเสริมพลังงานสะอาด รองรับกระแสโลก มาตรภาษีการดึงดูดลงทุนจากต่างชาติ การกระตุ้นการบริโภคผ่านโอนเงินดิจิทัลวอเล็ต มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน มุ่งผลักดันราคาสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลกเกิน 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม

โดยการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ไม่ได้ตั้งมาในรูปแบบคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจเหมือนกับที่ผ่านมา แต่เป็นการประชุมกระทรวงด้านเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือด้านเศรษฐกิจ เมื่อนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมเป็นครั้งไป โดยมีสภาพัฒน์เป็นเลขาที่ประชุม .- 515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ