กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-ธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งสถาบันการเงินปรับปรุงการคิดดอกเบี้ยและการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อลดภาระประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า
วันนี้(7 ม.ค.) ธปท.ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับปรุงการคิดดอกเบี้ยและการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใน
3 เรื่อง เพื่อลดภาระของประชาชนและเอสเอ็มอีและปรับปรุงให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นธรรมมากขึ้น
ประกอบด้วย 1.ค่าปรับการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด (prepayment) สำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอี
และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีลักษณะการผ่อนชำระเป็นงวด เดิมผู้ประกอบการบางรายคิดค่าปรับจากฐานวงเงินสินเชื่อทั้งก้อน
เกณฑ์ใหม่ให้คิดค่าปรับบนยอดเงินต้นคงเหลือ รวมทั้ง
ให้กำหนดช่วงระยะเวลาที่จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับการไถ่ถอน ซึงค่าปรับที่ไม่สูงจะช่วยให้ประชาชนมีสิทธิที่จะเลือกผู้ประกอบการที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและช่วยเพิ่มการแข่งขันในระบบ
รวมทั้งทำให้ตลาด refinancing เกิดขึ้นในประเทศไทย
2.ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อส่วนบุคคล
ที่มีลักษณะการผ่อนชำระเป็นงวด
เดิมการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนฐานของเงินต้นคงเหลือ
เกณฑ์ใหม่ให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้บนค่างวด (installment) ที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระ
เฉพาะส่วนที่เป็นเงินต้นของค่างวดนั้น หากผู้ให้บริการมีลูกหนี้เดิมที่อยู่ระหว่างการเรียกเก็บดอกเบี้ยตามวิธีเดิม
ขอให้ผู้ให้บริการพิจารณาปรับลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยตามสมควร
นอกจากนี้ให้กำหนดช่วงระยะเวลาการผ่อนผันไม่คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
(grace period) ในกรณีที่ลูกหนี้อาจมีเหตุสุดวิสัย
ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด และให้ชี้แจงรายละเอียดของยอดหนี้ค้างชำระ เช่น
ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ค่าธรรมเนียมทวงถามหนี้ ให้ลูกหนี้ทราบอย่างชัดเจน การปรับปรุงในครั้งนี้นอกจากจะทำให้เป็นธรรมมากขึ้นแล้ว
จะช่วยลดโอกาสที่ลูกหนี้จะไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้ (affordability risk)
3.ค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต
กรณีผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บัตร
เดิมไม่มีการคืนส่วนต่างหรือคืนเมื่อร้องขอเท่านั้น
เกณฑ์ใหม่ให้คืนค่าธรรมเนียมรายปีตามสัดส่วนระยะเวลาคงเหลือของบัตรแก่ผู้ใช้บริการโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้บริการร้องขอ
และกรณีต้องออกบัตรหรือรหัสบัตรทดแทน เดิมจะเรียกเก็บทุกกรณี
เกณฑ์ใหม่ให้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการออกบัตรหรือรหัสบัตรทดแทน
แต่หากกรณีที่ออกบัตรหรือรหัสทดแทนมีต้นทุนสูงอาจพิจารณาจัดเก็บได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ ในระยะต่อไป
ธปท.ขอให้ผู้ให้บริการนำหลักการคิดดอกเบี้ยและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใน 4
เรื่องดังต่อไปนิมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ด้วย (1)
ต้องสะท้อนต้นทุนจริงจากการให้บริการ (2)
ต้องไม่เป็นภาระต่อผู้ใช้บริการจนเกินสมควรและคำนึงถึงความสามารถในการชำระของผู้ใช้บริการ
(3) ต้องไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน และ (4)
ต้องเปิดเผยอัตราค่าธรรมเนียมอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ธปท.
จะจัดให้มีการเปรียบเทียบข้อมูลอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ของผู้ให้บริการแต่ละรายเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้บริการและเพื่อส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เหมาะสมมากขึ้นด้วย
“ การปรับปรุงในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการต่อระบบการเงินของไทยและสนับสนุนให้ผู้ให้บริการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว”นายวิรไทกล่าว-สำนักข่าวไทย