ผลกระทบแบน 3 สารเคมีต่ออุตสาหกรรมเกษตร ตอน 2

สุพรรณบุรี 25 พ.ย.- มีข้อเสนอถึงวิธีการที่จะใช้กำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทั้งการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร สารชีวภัณฑ์หรือสารเคมีทดแทน หากตั้งแต่ 1 ธ.ค.นี้ สารเคมีทั้ง 3 ชนิดจะถูกแบน แต่เกษตรกรกรบอกว่าเมื่อนำไปปฏิบัติกลับพบข้อจำกัด และอาจส่งผลให้ทั้งต้นทุนและมีอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ติดตามในรายงานพิเศษ “ผลกระทบแบน 3 สารเคมีต่ออุตสาหกรรมเกษตร” วันนี้เสนอเป็นตอนที่ 2


เกษตรกรที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กำลังคัดมันส่งโรงรับซื้อมันสำปะหลังเขาปลูกมัน 5 ไร่ ไม่เคยใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชฉีดพ่นในไร่มัน แต่ใช้การถอนด้วยมือแทน


อย่างชาวไร่มันคนนี้ ปลูกอ้อยมาก่อน แต่เมื่ออ้อยล้นตลาด จึงแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่ง 20 ไร่ มาปลูกมันได้ 3 ปีแล้ว แปลงนี้อายุ 6 เดือน ใช้ทั้งพาราควอต และไกลโฟเซต หากมีการยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ต้องใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักรกำจัดวัชพืชแทน หนี้เก่าก็ยังมี หนี้ใหม่กำลังจะเพิ่ม เพราะพื้นที่ปลูกอยู่บนเขา รู้สึกท้อใจ


นอกจากมันสำปะหลัง ยังมีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นิยมปลูกบนพื้นที่ภูเขา ตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว หลังปลูกครบ 4 เดือน นอกจากใช้แรงงานคน หลายแปลงนำเครื่องจักรเข้ามาเก็บเกี่ยว จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะนำเครื่องจักรเข้ามากำจัดวัชพืชได้เช่นกัน แต่เกษตรกรบอกว่าไม่ได้ เพราะเครื่องเกี่ยวข้าวโพดเกี่ยวบนพื้นดิน แต่เครื่องกำจัดวัชพืชต้องขุดลงไปในดิน และในดินยังมีหิน ใบมีดอาจหักพัง ยิ่งจะทำให้เสียเงินมากกว่าเดิม

เหตุผลสำคัญที่ต้องการให้ยกเลิก 3 สารเคมี คือ ผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่มีการพูดถึงสารตกค้างในผักผลไม้ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในงานวิจัย

ผู้เชียวชาญด้านวัชพืชให้ข้อมูลว่า พาราควอตออกฤทธิ์เฉพาะส่วนที่เป็นสีเขียวหรือคลอโรฟิลล์ ทำให้เหี่ยวแห้งตาย เมื่อตกลงสู่ดินจะถูกดูดยึดไว้กับอนุภาคของดิน และหมดฤทธิ์ทันที จึงไม่ซึมเข้าสู่ราก ไม่ทำลายระบบรากใต้ดิน และจะสลายตัวโดยแสงและถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดินใช้เวลาประมาณ 1-1.5 เดือน หากสะสมในดินและเป็นพิษจริง วัชพืชคงไม่เติบโตขึ้นในพื้นที่เดิม ส่วนไกลโฟเซต ที่มีการระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่และยังไม่ตัดสินคดี

ระหว่างนี้ยังมีการเสนอให้ใช้สารชีวภัณฑ์ซึ่งผลิตจากพืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ แทน 3 สารเคมี แต่กลับมีผู้ฉวยโอกาสนำพาราควอตและไกลโฟเซ ผสมในสารชีวภัณฑ์ หลอกขายให้เกษตรกรในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนอีกมาก และยิ่งอันตราย เพราะเกษตรกรคิดว่าปลอดภัย จึงสัมผัสโดยตรง และอาจตกค้างถึงผู้บริโภค

ขณะที่การเสนอใช้สารเคมีทดแทนอย่างกลูโฟซิเนต ยังมีการถกเถียงกันเรื่องราคาที่สูงกว่าพาราควอต 3-5 เท่า และประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่าพาราควอต ซึ่งกระทรวงเกษตรขอเวลา 2-3 ปี เรื่องการหาสารทดแทน

สมาคมอารักขาพืชไทย สมาคมนวัตกรรมเกษตรไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจ ซึ่งไม่เห็นด้วยต่อการแบน 3 สารเคมี มองว่าการแบน 3 สารเคมี ที่เคยได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรในอดีต อาจกลายเป็นสารที่ผิดกฎหมายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ทำให้รัฐต้องพิจารณาแก้ไขและชดเชยความเสียหายทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม และวิธีการเก็บผลิตภัณฑ์สารเคมีส่งรัฐในกรอบเวลาที่ทำได้จริง.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”