สลด ลูกชายวัย 20 ปี ฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็น

กรุงเทพฯ 25 พ.ย. – ลูกชายวัย 20 ปี ก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็นในบ้านพักย่านท่าข้าม ก่อนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส คาดป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ล่าสุด ลูกชายเสียชีวิตแล้ว 


เมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลศิริราชฯ เข้าตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอยท่าข้าม 28 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน หลังได้รับแจ้งว่าพบศพถูกหั่นซุกไว้ในตู้เย็น และมีผู้บาดเจ็บใช้อาวุธปืนยิงที่ศีรษะตัวเอง


โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ปลูกติดกัน ตรวจสอบภายในบ้านพบผู้บาดเจ็บ คือ นายศิระ สมเดช วัย 20 ปี นักเรียนสถาบันแห่งหนึ่ง สภาพถูกยิงที่ศีรษะ นอนจมกองเลือด มีอาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ขนาด.38 ตกอยู่ด้านขวาของผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกหั่นแยกคอ แขน 2 ข้าง ลำตัว และชิ้นส่วนอื่นๆ ถูกซุกเอาไว้ในตู้เย็น ซึ่งทราบชื่อคือ นางสาวยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ

   


ด้านพลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว  โดยเพื่อนผู้ตายพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้เพื่อนในละแวกดังกล่าวมาตามที่บ้าน เมื่อมาถึงพบลูกชายเป็นนักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พบว่ารถและทรัพย์สินของเพื่อนยังอยู่ในบ้าน เมื่อสอบถามลูกชายกลับบ่ายเบี่ยง อ้างแม่หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมกับพยายามไล่ออกนอกบ้าน จะไปตามหาแม่ แต่เพื่อนผู้ตายไม่เชื่อ จึงพยายามเดินหา แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งไปเปิดที่ตู้เย็น พบชิ้นส่วนอวัยวะคน ช่วงเท้า เชื่อว่าเป็นศพเพื่อน จึงโทรแจ้งตำรวจ จังหวะนั้น ลูกชายก็คว้าปืนยิงศีรษะตัวเองบาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบหรือให้ข้อมูลใดๆ ต้องรอสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังเก็บมีดที่พบในครัว 5-6 เล่ม และค้อนในลิ้นชัก ส่งตรวจสอบอย่างละเอียด 

  

ขณะที่ญาติผู้ตายระบุว่า ผู้ตายและลูกชายอาศัยอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ย้ายที่อยู่จากบางนามาท่าข้ามได้เกือบ 10 ปีแล้ว ปกติไม่เคยมีปัญหา ดูแลกันมาตลอด ไม่เคยมีปากเสียง หรือใช้ความรุนแรง  ซึ่งจากการเข้าไปดูในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ยอมรับว่าลูกชายผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รักษาอาการมากว่า 2 ปี ต้องกินยาเป็นประจำ โดยปกติเป็นคนเงียบขรึม ไม่มีปัญหากับใคร ล่าสุด มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว หลังส่งตัวรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลนครธน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง