รอง ผบช.น. เผย ส.ต.ต.หญิง อยู่ในความดูแลของแพทย์ ยันเยียวยาเต็มที่

บช.น. 25 มี.ค.-รอง ผบช.น. ระบุตำรวจหญิงบาดเจ็บจากการฝึกเป็นอุบัติเหตุ อยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเยียวยาเต็มที่ ด้านแม่ของ ส.ต.ต.หญิง เชื่อลูกป่วยซึมเศร้าหลังเข้ารับการฝึกหลักสูตรกองร้อยน้ำหวาน ไม่ขวางหากลูกอยากเป็นตำรวจต่อ


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก. และ พ.ต.อ.วิษณุวัฒน์ ภู่ระหงษ์ ผกก.ฝอ.4 แถลงข่าวกรณีข้าราชการตำรวจหญิง สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการเข้ามาเป็นตำรวจ 1 ปี ทั้งเรื่องการฝึก และการเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก

พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่าเบื้องต้นได้รับรายงานข้อมูลดังกล่าวแล้ว โดยทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีความห่วงใยจึงสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาเดินทางไปเยี่ยมข้าราชการตำรวจหญิงดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา พบว่า ส.ต.ต.หญิง คนธรส อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและมีอาการปลอดภัย ปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ผบ.หมู่ ฝอ.4 บก.อก.บช.น. ยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยได้พูดคุยกับทางคุณแม่ของ ส.ต.ต.หญิง คนธรส และได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


เบื้องต้นได้ให้ ส.ต.ต.หญิง คนธรส อยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิดรักษาตัวอยู่ก่อน ส่วนในเรื่องการฝึกของน้องที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะได้ทำการเสนอเรื่องมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการฝึกอบรมดังกล่าว และจะติดตามความคืบหน้าทันที

จากการตรวจสอบพบว่า ส.ต.ต.หญิง คนธรส ได้มีการเข้าฝึกอบรมหลักสูตรกองร้อยน้ำหวาน ที่ บก.สอ.บช.ตชด. แต่ยังไม่จบหลักสูตรดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ยังคงทำงานในตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ข้อมูลอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยงานที่ ส.ต.ต.หญิง คนธรส เข้ารับการฝึกและครูฝึก โดยได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดตามความคืบหน้าอย่างทันท่วงที

สำหรับ ส.ต.ต.หญิง สมัครใจลงมาฝึกตามหลักสูตร กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนเอง โดยมีไทม์ไลน์การฝึกตลอดหลักสูตรดังนี้ เริ่มการฝึกตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.- 12 ก.ค.2566 ผ่านมาเพียง 4 วัน ในวันที่ 19 มี.ค.66 ส.ต.ต.หญิงประสบอุบัติเหตุ ระหว่างการฝึก ถูกเพื่อนในรุ่น กระโดดชักเท้าหลังไปโดนศีรษะจนบาดเจ็บ ต้องส่งตัวไปรักษาด่วนที่ รพ.หัวหิน และส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ กทม. แพทย์ลงความเห็นให้รักษาตัวอยู่ 10 วัน ช่วงวันที่ 20-29 มี.ค.66 พอถึงวันที่ 29 มี.ค.66 ส.ต.ต.หญิงกลับมารายงานตัวต่อที่กองร้อยการฝึกและฝึกต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 มี.ค.- 7 เม.ย.66 กระทั่งวันที่ 8-17 เม.ย. ส.ต.ต.หญิง ได้พักตามกรอบเวลา เมื่อถึงวันที่ 17 เม.ย.66 ต้องเริ่มการฝึก แต่ ส.ต.ต.หญิง ไม่ได้กลับมาฝึก แต่ไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ และรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง แพทย์ให้ความเห็นว่า เครียดวิตกกังวล ต้องรักษาอย่างใกล้ชิด ตามหลักสูตรการฝึกต้องฝึกให้ครบ 80% หรือ 440 ชั่วโมง แต่ด้วยอาการป่วย จึงฝึกต่อไม่ได้ ต้องส่ง ส.ต.ต.หญิง กลับไปที่กองอำนวยการ 4 ดังเดิม


ยืนยันว่าการที่ ส.ต.ต.หญิง ถูกเตะศีรษะนั้นคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และก็จะไม่มีบทลงโทษใดๆ กับคนที่เตะด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ส.ต.ต.หญิงก็โพสต์ ยืนยันแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุจริง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้รับการร้องเรียนครูฝึกคนดังกล่าว และในรุ่นก็ไม่มีผู้ใดร้องเรียนการฝึกนี้
ส่วนเรื่องการเยียวยานั้นยืนยันว่า ทางต้นสังกัดจะรักษา ส.ต.ต.หญิง ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ก็จะได้รับตามสิทธิ์ข้าราชการอย่างครบถ้วน

ด้าน พ.ต.อ.วิษณุวัฒน์ ระบุว่า ส.ต.ต.หญิง มีโอกาสกลับไปฝึกต่อได้อีกและสามารถมาบรรจุ ผบ.หมู่ ได้ แต่ในห้วงเวลาดังกล่าว ยังไม่เปิดการฝึกครั้งที่ 2

ขณะแม่ของ ส.ต.ต.หญิง เชื่อว่าอาการป่วยของน้องเกิดขึ้นหลังเข้ารับการฝึกอบรมตำรวจอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้น้องเป็นคนร่าเริง เรียนเก่ง ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ส่วนเรื่องดังกล่าวแม่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยจนกระทั่งไปเจอน้องที่โรงพยาบาลและรู้ว่าความเห็นของแพทย์ไม่ตรงกัน จึงไปรับน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตอนนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะต้องมีการดูแลต่อเนื่อง โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางให้การดูแลเป็นอย่างดี

น้องเล่าให้ฟังว่าหลังบรรจุเข้ารับราชการตำรวจก็ถูกส่งไปฝึกอบรมตามโครงการต่าง ๆ โดยในหลักสูตรมีการรับน้อง ส่วนเหตุการณ์ในค่ายถึงแม้ไม่ได้เห็นกับตาแต่ก็เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ จึงส่งไปรักษาตัว แต่ก็มีคำสั่งให้กลับไปฝึกต่อทั้งที่ยังมีอาการป่วยอยู่ สภาพร่างกายยังไม่ปกติ ส่วนรายละเอียดเรื่องที่น้องถูกด้อยค่า แม่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็เชื่อว่าเป็นไปตามที่น้องโพสต์ เพราะถ้าไม่ถึงที่สุดน้องก็จะไม่มีการโพสต์ระบายแบบนี้ และเชื่อว่าโพสต์ระบายออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ และส่วนตัวก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก และหลังจากที่น้องฝึกเสร็จและกลับมาก็มีอาการเครียดและซึมเศร้า น้องเล่าให้ฟังว่าท่าที่ทำให้อาการป่วยหนักขึ้นคือท่าลุกหมอบ แม่ยอมรับว่าตกใจที่อาการของลูกเป็นแบบนี้ ส่วนหลังจากนี้จะให้ลูกรับราชการตำรวจต่อหรือไม่ แม่ยืนยันว่าน้องยังอยากรับราชการอยู่ เพราะมีความเข้มแข็งและตั้งใจอยากรับราชการ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้ลูกเป็นคนตัดสินใจว่าจะเป็นตำรวจต่อหรือไม่ โดยให้สิทธิ์น้องเป็นคนตัดสินใจ

ส่วนการกีดกันจากผู้บังคับบัญชา แม่ไม่ทราบข้อมูลส่วนนี้ ต้องให้น้องเป็นคนบอก แต่ยอมรับว่าน้องมีความกดดันและเครียดเนื่องจากเป็นโรคซึมเศร้าที่ไม่สามารถหายได้

ด้านน้องมะนาว เพื่อนของ ส.ต.ต.หญิง เล่าว่าเป็นเพื่อนกับ ส.ต.ต.หญิง ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ที่ผ่านมา ส.ต.ต.หญิง เป็นคนสดใสร่าเริง และไม่มีอาการทางจิต แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ได้โทรศัพท์มาปรึกษาอยู่บ่อยครั้ง โดยเพื่อนเล่าให้ฟังว่าเป็นอุบัติเหตุจากการฝึกอบรมฯ และบอกว่าตอนนี้ตนเองไม่มีคุณค่า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพูด แต่ไม่เลวร้ายถึงขั้นโพสต์บอกลา เชื่อว่าครั้งนี้คงสุด ๆ แล้ว จึงบรรยายความรู้สึกในโพสต์ โดยเฉพาะคำพูดด้อยค่าจากคนรอบข้าง ส่วนใครเป็นคนพูดกดดันหรือด้อยค่าแม่และตนเองปฏิเสธไม่ขอบอก เกรงจะมีปัญหาตามมา แต่ยืนยันเกิดจากการฝึกแน่นอน และตั้งแต่นั้นสภาพจิตใจก็ย่ำแย่มาโดยตลอด โดยทุกคืนที่นอนฝันถึงการฝึก รวมถึงการลงโทษด้วยการดองเวร ลักษณะยืนเข้าเวรเป็นระยะเวลานาน ส่วนบรรยากาศภายในค่ายตนเองไม่ทราบ แต่เชื่อว่าหากน้องสภาพปกติคงฝึกต่อได้ แต่ครั้งนี้หลังเกิดอุบัติเหตุก็ยังต้องกลับไปฝึกอีก จึงทำให้อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการฝึกที่การใช้ศีรษะ ทั้งที่ไม่ควรใช้แล้วเพราะเพื่อนไม่สบาย และยืนยันว่า เพื่อนโทรมาร้องไห้บ่อยครั้งและบอกเศร้าอีกแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นยังคงอยู่ ที่ผ่านมาไม่เคยตัดพ้อว่าไม่เคยอยากเป็นตำรวจ ส่วนฟางเส้นสุดท้ายเชื่อว่าเพราะเป็นมานานจึงเกิดความเครียดสะสม จนทำให้ไม่สามารถทนได้.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย