กรุงเทพฯ12 พ.ย. – ไออาร์พีซีปรับกลยุทธ์ธุรกิจยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและนวัตกรรม พร้อมเปิดแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ ผ่าน PLASTKET.COM
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า จากนี้ไปจะมุ่งกลยุทธ์เน้นยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ customer centric โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยและนวัตกรรมมาตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดทั้งคุณภาพและบริการ พร้อมจัดกระบวนการทำงานภายในใหม่ รวมศูนย์ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายวิจัยให้สามารถดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถการแข่งขันเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมากขึ้นและทำให้บริษัทได้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งลดความผันผวนของราคาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย
สำหรับความคืบหน้าการผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำมาตรฐาน IMO หรือองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำร้อยละ 0.5 จากเดิมร้อยละ 3.5 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ขณะที่ปัจจุบันไออาร์พีซี สามารถผลิตได้ 52,000 ตันต่อเดือน จากกำลังการผลิตรวม 60,000 ตันต่อเดือน โดยวางเป้าหมายขายในประเทศร้อยละ 65 ส่งออกร้อยละ 35 อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียและตะวันออกกลางมีความต้องการน้ำมันเตากำมะถันต่ำมากถึง 9.3 ล้านตันต่อเดือน จากปัจจุบันมี supply ในตลาดเพียง 4.7 ล้านตันต่อเดือน ซึ่งกำลังการผลิตปัจจุบันไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
“ไออาร์พีซีเป็นโรงกลั่นเดียวในประเทศไทยที่มีหน่วยกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันเตา ทำให้มีความได้เปรียบด้านคุณภาพ โดยเนื้อน้ำมันไม่แยกชั้นเวลาเก็บเป็นสินค้าคงคลัง รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่ไม่ผันผวนเหมือนกับผู้ผลิตรายอื่นสามารถป้อนน้ำมันมาตรฐาน IMO เข้าสู่ตลาดได้เป็นรายแรกและก่อนระยะเวลาที่มาตรฐานกำหนด” นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเกรดพิเศษว่า ไออาร์พีซีเป็นโรงกลั่นรายแรกในประเทศไทยผลิตยางมะตอยเกรดพิเศษ 40:50 ออกสู่ตลาด ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อเดือน และมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก ในอนาคตผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเกรด 40:50 เป็นการรองรับมาตรฐานที่เสริมความแข็งแกร่ง ลดการเกิดร่องตามท้องถนน และมีอายุการใช้งานนานขึ้น โดยภาครัฐนำร่องให้ใช้ยางมะตอยเกรดพิเศษใหม่บนถนนพระราม 2 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคและทิศทางธุรกิจที่เติบโต เช่น เม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐานยานยนต์ญี่ปุ่น ทุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำจากเม็ดพลาสติกเอชดีพีอีคอมพาวด์ ที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อม มีอายุการใช้งานเกิน 25 ปี และท่อน้ำประปาที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกเอชดีพีอี ที่ทนทานต่อสารคลอรีนมากกว่าท่อน้ำประปาทั่วไปมีอายุการใช้งานมากกว่า 60 ปี เป็นต้น พร้อมรุกตลาดยานยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ทั่วไป รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ด้วยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก พีพี คอมพาวด์ ที่สามารถปรับปรุงคุณสมบัติพิเศษและสีสันต่าง ๆ ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับความคืบหน้าของการร่วมทุนระหว่างไออาร์พีซีกับ WHA Industrial Estate Rayong Co.,Ltd. เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะดับบลิวเอชเอ รองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองนั้น ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการรับรองเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ประเภทเมืองใหม่อัจฉริยะ (New City) จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2564
นอกจากนี้ ยังมีการขยายความร่วมมือไปสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ PLASTKET.COM โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ การให้บริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศจากสมาคมโลจิสติกส์แห่งประเทศไทย รวมทั้งการสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคและการพัฒนานวัตกรรมจากวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.-สำนักข่าวไทย