ลพบุรี 26 ต.ค.-มีคำสั่งไล่ออก ดาบตำรวจ สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี ลักลอบนำปืนหลวงรวม 50 กระบอก ออกไปจำนำกับคนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เนื่องจากติดหนี้พนันฟุตบอล พร้อมดำเนินคดีอาญา และเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีตำรวจยศดาบตำรวจประจำการที่ สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี นำปืนหลวง ซึ่งเป็นปืนที่อยู่ในคลังสถานีตำรวจภูธรท่าหิน ไปจำนำให้กับบุคคลภายนอก ล่าสุดวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าผู้กระทำความผิดคือ ด.ต.ชรินทร์ บุตรดี อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.ท่าหิน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ส่งกำลังบำรุง ทำหน้าที่ดูแลพัสดุและสิ่งของหลวงได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง
โดยนำปืนหลวงออกไปจำนำทั้งหมด 50 กระบอก เนื่องจากว่ามีปัญหาทางการเงิน ติดการพนันฟุตบอล หมดหนทางหาเงิน จึงลักลอบนำอาวุธประจำกายของตำรวจจากคลังไปจำนำ และขายตามตลาดมืด ซึ่งถือว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าหิน จ.ลพบุรี ได้สอบสวนดำเนินคดีทางอาญา และส่งตัวฝากขังที่เรือนจำกลางลพบุรีแล้ว และได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชไว้ก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใสกับทุกฝ่าย จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนและตั้งชุดสืบสวนติดตามอาวุธปืนอีก 31 กระบอกกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 1 ราย คือนายประทีป โตพูล พร้อมอาวุธปืนที่หายไปรวม 19 กระบอก ตามหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรี “ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดซื้อ ทำดูแล รักษาทรัพย์ใด ๆ เบียดบังทรัพย์นั้นป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต หรือรับของโจร” และได้นำตัวฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤตมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี ไปแล้ว นอกจากนี้ คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลจังหวัดลพบุรีออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 5 ราย โดยยืนว่าจะดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยไม่มีการละเว้นและไม่มีผู้ใดสามารถให้ความช่วยเหลือได้
ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้คดีนี้ด้วยความรอบคอบส่วนตำรวจหากทำผิดจริงต้องเอาโทษให้ถึงที่สุดและต้องรับโทษหนักกว่าบุคคลธรรมดา เพราะว่าเป็นใช้กฎหมายแต่กลับทำผิดเสียเองไม่เคารพต่อเกียรติของตำรวจ พร้อมกำชับให้ผู้บังคับบัญชา เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ตรวจตรา ความสงบเรียบร้อย รวมไปถึงมาตรการในการป้องกันเหตุ สำรวจสิ่งของหลวงตามกำหนด.-สำนักข่าวไทย