อุทัยธานี 25 ต.ค.- “มนัญญา” ร.ม.ช.เกษตรฯ ลงพื้นที่อุทัยธานีรับฟังความเห็นทุกฝ่าย หวังเป็นโมเดลเมืองเกษตรปลอดสาร หลังมีมติเลิกใช้ 3 สารเคมี พร้อมเดินหน้าทำทุกจังหวัด
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ประชุมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อหาแนวทางร่วมกัน หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยมีผลวันที่ 1 ธันวาคม 2562 รวมทั้งให้ปรับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย และครอบครอง ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการปรับเปลี่ยน จากเดิมเคยใช้พาราควอตและไกลโฟเซตเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช ส่วนคลอร์ไพริฟอสใช้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
สำหรับการลงพื้นที่รับฟังความเห็นครั้งนี้ ถือเป็นการนำร่องที่จังหวัดอุทัยธานีเป็นพื้นที่แรก จากนั้นจะมีการลงพื้นที่รับฟังความเห็นทั่วประเทศ
น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ที่ต้องมาพูดคุยกันก็เพื่อความเข้าใจว่าเหตุใดต้องเลิกการใช้สารเคมี และมีผลกระทบจากการใช้อย่างไร หลายปีที่ผ่านมาได้เดินหน้าที่จะยกเลิกการใช้สารเคมีมานานนานแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะต้องหาข้อมูลให้รอบด้านถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด รวมทั้งทางเลือกเมื่อเลิกใช้สารเคมี คือ อยากให้ใช้อินทรีย์ หรือปุ๋ยชีวภาพ เพราะในประเทศไทยมีหลายสิ่งอย่างสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยได้มากมาย
“อยากให้อุทัยธานีเป็นจังหวัดนำร่องปลอดสาร ใครมาอุทัยธานีไม่ว่า ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องดีและสะอาด ซึ่งไม่ใช่แค่อุทัยธานีเท่านั้น แต่จะทำทุกจังหวัด ส่วนสารทางเลือกที่ว่าจะมีราคาสูงนั้น ก็เป็นการพูดต่อ ๆ กันไป จริง ๆ แล้วสารพวกนี้มีอยู่ในท้องตลาดและอยู่ในราคาที่พี่น้องจับต้องได้อยู่แล้ว”.-สำนักข่าวไทย