ก.คลัง 24 ต.ค. – ผลการจัดอันดับความยากง่ายประกอบธุรกิจ Doing Business 2020 ไทยได้อันดับที่ 21 ดีขึ้น 6 อันดับ จากอันดับที่ 27 ในปีที่แล้ว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้เผยแพร่การจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2563 (Doing Business 2020) ของประเทศต่าง ๆ รวม 190 ประเทศ ปรากฏว่าประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 21 ดีขึ้น 6 อันดับ จากอันดับที่ 27 ในปีที่แล้ว โดยประเทศไทยได้รับคะแนน 80.10 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.65 คะแนน นับเป็นอันดับที่ดีที่สุดของไทยในรอบ 6 ปี และมีคะแนนขึ้นมาใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 2 (86.20 คะแนน) และมาเลเซีย ซึ่งอยู่อันดับที่ 12 (81.50 คะแนน)
นายอุตตม กล่าวว่า การที่ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นครั้งนี้เป็นผลจากความพยายามของภาครัฐในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามลดขั้นตอนการขออนุมัติ หรือการนำระบบดิจิทัลเข้ามาให้บริการภาครัฐ รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้น รวมถึงการคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุน รายงานฉบับนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของประเทศไทยในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจรอบปีที่ผ่านมา ด้านที่ไทยได้รับอันดับดีขึ้นและคะแนนสูงขึ้นมีอยู่ 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการขออนุญาตก่อสร้าง ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นจากอันดับที่ 67 (71.86 คะแนน) ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 34 (77.30 คะแนน) ในปีนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินการลดขั้นตอนในการขออนุญาตก่อสร้างลงจาก 19 ขั้นตอน เหลือ 14 ขั้นตอน และลดระยะเวลาดำเนินการลงจาก 118 วัน เหลือ 113 วัน และด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย โดยประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้นจากอันดับที่ 15 (75.00 คะแนน) ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 3 (86.00 คะแนน) ในปีนี้ จากคะแนนด้านการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 8 คะแนน เป็น 9 คะแนน โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 10 คะแนน
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีอันดับโดยรวมดีขึ้นมากครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้มีความสะดวกและเอื้อต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ในระยะยาว และผลประโยชน์จากการปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะนำมาซึ่งการเพิ่มการลงทุนและมีการจ้างงานคุณภาพมากขึ้นในอนาคต
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยได้รับการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจดีขึ้น 6 อันดับ จากอันดับ 27 มาอยู่ที่อันดับ 21 เกิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือร่วมใจกันทำงาน เพราะได้ขยับอันดับ doing business ดีขึ้นต่อเนื่องจาก 46 มาอยู่ที่อันดับ 26 – 27 และปีนี้มาอยู่ที่อันดับ 21 จึงตั้งเป้าหมายขยับไปอยู่อันดับ 1 ใน 20 ของโลก เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยปีนี้คะแนนที่ได้เพิ่มมาก คือ ในส่วนของ ก.ล.ต.ปีต่อ ๆ ไปจะทำในเรื่องที่มีผลต่อคะแนนการจัดอันดับเพื่อให้ไทยขยับเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย