สงขลา 23 ต.ค.-เกษตรกรในจังหวัดสงขลาสนับสนุนมติแบน 3 สารเคมีของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เผยเหตุเลิกใช้สารเคมีมานานนับสิบปี เพราะส่งผลกระทบสุขภาพย่ำแย่ หลังเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ส่งผลคุณภาพชีวิตดีขึ้น ต้นทุนการผลิตลดลง ขายได้ราคาดี แถมมีตลาดรองรับไม่อั้น
นายสมชาย จันทะสระ เกษตรกรในตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เผยว่า ตนเลิกใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิดในสวนยางพารา รวมถึงแปลงพืชผักทุกชนิดในสวน มานานประมาณ 10 ปี โดยในช่วงที่ใช้สารเคมีนั้น ทั้งตนเองรวมถึงภรรยาและบุตร ต่างก็ได้รับผลกระทบ ทำให้สุขภาพย่ำแย่ จนต้องหันมาคิดทบทวนและเลิกใช้สารเคมีทุกชนิดในการทำการเกษตร และหันมาใช้สารอินทรีย์ ชีวภัณฑ์ ด้วยการเรียนรู้ผ่านสถาบันการศึกษาและส่วนราชการ จนทำให้ในวันนี้สามารถทำเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรได้ ปลูกพืชผักหลากหลายชนิด ทำปุ๋ยอินทรีย์ สารกำจัดศัตรูพืชแบบชีวภัณฑ์ด้วยตัวเองทั้งหมด
ส่วนหญ้าวัชพืชนั้น ใช้วิธีการถอน ตัด รวมถึงใช้ฟางคลุมหน้าดินกำจัดหญ้า ให้กลายเป็นปุ๋ย ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง คุณภาพชีวิตดีขึ้น ผลผลิตปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์ ขายได้ราคาดี สามารถส่งขายในตลาดเกษตรอินทรีย์ รวมถึงโรงพยาบาล ที่ตอบรับผลผลิตไม่อั้น โดยปัจจุบันนี้แปลงผักของตนได้รับการยืนยันเป็นแปลงพืชผักเกษตรอินทรีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์
นายสมชาย เชื่อว่า หลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบน 3 สารเคมีอันตราย จะไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ในส่วนของเกษตรกรที่เคยใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด สามารถหันกลับมาทำเกษตรอินทรีย์ ด้วยการเรียนรู้และเชื่อมั่น โดยมีส่วนราชการเป็นพี่เลี้ยง ก็จะสามารถปรับเปลี่ยน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรเอง รวมถึงส่งผลดีต่อผู้บริโภคอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย