กรุงเทพฯ 19 ต.ค.-กลุ่มเกษตรกรคัดค้านแบน 3สารเคมีเตรียมแถลงใหญ่ความเดือดร้อนจันทร์นี้ ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ชี้ขาดยกเลิกหรือไม่ 22 ต.ค. ด้านกระทรวงเกษตรฯวุ่น” มนัญญา”สั่งยุติรับสมัครเกษตรกรฝึกอบรมใช้สารเคมี 3 ชนิด ตามประกาศจำกัดการใช้ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย (อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ผักและผลไม้) แจ้งว่า ในวันจันทร์นี้ (21 ต.ค.)จะเปิดแถลงข่าว โหมโรง รวมพลังเกษตรกรไทย คัดค้านการแบน 3 สาร คือ สารคลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเสต โดยระบุว่าจะมีการเปิดหลักฐานสำคัญคัดค้าน นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ยกเลิก หรือแบน 3 สารดังกล่าว โดยระบุว่า จะมีการประกาศเจตนารมณ์ของเกษตรกรทั่วไทย ในการ แบนพรรคการเมือง โดยงานจะจัด เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ
ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรฯระบุว่า เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรซึ่งมีนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานได้ประชุมพิจารณาความก้าวหน้าในการดำเนินการตามมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรตามมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ในวาระการประชุมมีการพิจารณาคำสั่งของนางสาวมนัญญา ที่ให้กรมวิชาการเกษตรแจ้งเกษตรกรให้ยุติการสมัครเข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการอบรมเกษตรกรผู้ปลูกพืชที่ต้องใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 62
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางและมีมติให้ดำเนินการอบรมเกษตรกรต่อไปเนื่องจากประกาศกระทรวงเกษตรฯ 5 ฉบับเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ในการจำกัดการใช้ทั้ง 3สาร ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) สาระสำคัญ คือ การกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ ผู้จำหน่าย ผู้ครอบครอง เกษตรกร และผู้รับจ้างพ่นสารเคมีต้องอบรมจากกรมวิชาการเกษตรเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยที่ผ่านมามีการฝึกอบรมเกษตรกรแล้วประมาณ 500,000 ราย ดังนั้น หากยุติการให้เกษตรกรยุติการสมัครเข้ารับการฝึกอบรมอาจขัดต่อข้อกฎหมาย โดยจะนำเรื่องนี้ เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 22 ต.ค.นี้ด้วย
นายเชิดชัย จิณะแสน กรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและประธานคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ระดับประเทศ กระทรวงเกษตรฯ ทำหนังสือส่วนตัวถึงประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายระบุว่า ได้รับการประสานจากเกษตรกรทั่วประเทศว่า สารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิดมีความจำเป็นต้องใช้ในการทำเกษตรต่อไปเนื่องจากยังไม่มีสารทดแทนที่มีประสิทธิภาพเท่า อีกทั้งมีราคาถูกช่วยลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเกษตรกรเห็นด้วยที่จะเข้ารับการฝึกอบรมการใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ จึงขอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายชะลอการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิดไปก่อน แล้วดำเนินการตามแผนปฏิบัติการจำกัดการใช้ที่กำหนดไว้ระหว่างปี 2562 – 2564 ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีเวลาในการหาสารและวิธีการทดแทน หรือส่งเสริมมาตรการอื่นแก่เกษตรกร ที่สำคัญจะเป็นการลดความขัดแย้งของสังคมซึ่งมีแนวคิดเป็น 2 ขั้วอยู่ในขณะนี้
นายเชิดชัย กล่าวด้วยว่า การพิจารณาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาคการเกษตรของไทย ความขัดแย้งจะลุกลามขยายวงกว้าง กระทบไปยังประชาชนหลายกลุ่ม หลายองค์กร หลายหน่วยงาน และที่สำคัญที่สุดอาจกระทบกับรัฐบาล หากยังไม่มีทางออกให้เกษตรกรในการป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชโดยไม่เพิ่มต้นทุนการผลิตจากค่าสารเคมีชนิดใหม่ที่ราคาแพงกว่า และประสิทธิภาพต่ำกว่า ค่าแรงงานที่แพงมาก รวมทั้งหาแรงงานไม่ได้ด้วย การเร่งยกเลิกโดยไม่มีมาตรการรองรับและช่วยเหลือใดๆ แก่เกษตรกรจะเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทยหรือจะเป็นการทำลายโครงสร้างปัจจัยทางการผลิต รายได้ของเกษตรกร ตลอดจนความอยู่รอดให้แก่ภาคการเกษตรของไทยกันแน่-สำนักข่าวไทย