คาดแม่น้ำมูลสถานี M.7 วันพรุ่งนี้ ลดต่ำกว่าตลิ่ง

กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – สทนช.ส่งสัญญาณข่าวดีชาวบ้าน อ.วารินฯ เตรียมกลับเข้าบ้าน หลังประเมินระดับน้ำสถานี M.7 ต่ำกว่าระดับตลิ่งวันพรุ่งนี้ พร้อมส่งหนังสือด่วนถึง 5 กระทรวงหลักเตรียมการรับภัยแล้งต่อ เล็งเสนอ ครม.เข้มแผนจัดสรรน้ำ-มาตรการป้องผลกระทบล่วงหน้า



นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำมูล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากได้มีการปรับลดการระบายน้ำในลำน้ำชี ลำน้ำมูล ตอนบน ลำเซบาย และลำเซบก เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ประกอบกับการเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลตอนล่างออกสู่แม่น้ำโขง ส่งผลให้ระดับน้ำที่สถานี M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.วารินชำราบ ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันคงเหลือมวลน้ำประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ คาดว่าระดับน้ำจะต่ำกว่าตลิ่ง อ.วารินชำราบ วันพรุ่งนี้ ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณริมน้ำมูล อ.วารินชำราบ สามารถกลับเข้ายังบ้านเรือนของตนเองได้ เพื่อสำรวจความเสียหายและรับการฟื้นฟูเยียวยาโดยเร่งด่วนต่อไป


“จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลตอนล่างบริเวณ จ.อุบลราชธานี พบว่าระดับน้ำเริ่มมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง อาทิ สถานี M.176 อ.กันทรารมย์ ต่ำกว่าตลิ่ง 4.66 เมตร สถานี E.98 อ.เขื่องใน ต่ำกว่าตลิ่ง 0.29 เมตร สถานี M.7 อ.วารินชำราบ สูงกว่าตลิ่ง 0.47 เมตร อัตราการไหล 2,581 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เทียบจากเมื่อวาน นี้ระดับน้ำ 7.8 เมตร อัตราการไหล 2,878 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แนวโน้มลดลง 35 – 40 เซนติเมตร และสถานีโขงเจียมก่อนออกสู่แม่น้ำโขง ระดับน้ำ 94.34 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 9.19 เมตร และเมื่อเทียบสถานี M.7 ต่ำกว่าถึง 18.13 เมตร” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการมาตรการป้องกันภัยแล้งว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมน้ำในฤดูแล้งให้มีเพียงพอตลอดทั้งฤดูกาลและมั่นคงต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2562/2563  มีการจัดสรรน้ำอย่างเหมาะสมครอบคลุมกิจกรรมทุกด้าน โดยคาดการณ์ปริมาณน้ำช่วงสิ้นฤดูฝนวันที่  1 พฤศจิกายน 2562 มีน้ำใช้การได้รวม 35,972 ล้าน ลบ.ม. ในเขตชลประทาน 27,399 ล้าน ลบ.ม. นอกเขตชลประทาน 8,573 ล้าน ลบ.ม. แบ่งออกเป็น 5 กิจกรรม ได้แก่ อุปโภค-บริโภค 2,703 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 7% , รักษาระบบนิเวศ 7,161 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 20% , สำรองน้ำต้นฤดูฝน (อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่) 9,969 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 28%, เกษตรกรรม 1,551 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 43% แบ่งเป็นในเขตชลประทาน 9,937 ล้าน ลบ.ม. นอกเขตชลประทาน 5,644 ล้าน ลบ.ม. และอุตสาหกรรม 558 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 2% นั้น


ขณะนี้ สทนช.ได้ทำหนังสือถึง 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินปริมาณการใช้น้ำในกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำต้นทุน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย โดยการประปาส่วนภูมิภาคและประปาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำข้อมูลประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำดิบฤดูแล้งทั้งในเขตและนอกเขตการประปาส่วนภูมิภาค  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยกรมชลประทาน และกรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2562/2563 

ประกอบด้วย 1.แผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูแล้ง รายจังหวัดทั้งประเทศ ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง รวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ 4 แห่ง ได้แก่ บึงบอระเพ็ด บึงสีไฟ หนองหาร และกว๊านพะเยา และแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2562/2563 ในเขตชลประทาน รายจังหวัดทั้งประเทศ 2.แผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 รายจังหวัดทั้งประเทศ เพื่อให้มีการกำหนดพื้นที่ทำการเกษตรที่เหมาะสมและชัดเจน ลดการกระทบต่อการใช้น้ำในกิจกรรมด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะการอุปโภคบริโภค 3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/2563 นอกเขตชลประทาน รายจังหวัดทั้งประเทศ  4.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดทำแผนบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง และ 5.กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จัดทำแผนบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เป็นรายอ่างฯ ในฤดูแล้ง ปี 2562/2563

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กำกับดูแลการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามนโยบาย รวมถึงป้องกันและลดผลกระทบอย่างจริงจัง สทนช.จะรายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ การคาดการณ์น้ำท่วมในภาคใต้  รวมถึงการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง รวมถึงมาตรการเตรียมรับมือต่าง ๆ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 8 ตุลาคมนี้ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติทั้งระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงเร่งรัดหน่วยเกี่ยวข้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ หน่วยราชการในพื้นที่เกี่ยวข้อง กรรมการลุ่มน้ำ กลุ่มผู้ใช้น้ำ โดยเฉพาะเกษตรกรรับรู้สถานการณ์ล่วงหน้าก่อนลงทุนเพาะปลูกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย